Categories
การจัดสวน หน้าแรก ไม้ประดับ

บัวดอย ไม้ประดับ ที่นิยมปลูกในบ้าน

บัวดอย


บัวดอย เป็นไม้ประดับที่มีความงามและมีลักษณะเด่นที่น่าสนใจมาก ไม้ประดับ ที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมในการ ปลูกในบ้าน หรือสวน โดยควรระวังในกรณีที่มีเด็กเล็กเพราะน้ำยาที่อยู่บนใบของบัวดอยอาจสร้างความรุนแรงถ้าถูกทาและได้รับการสัมผัส นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับบัวดอย

  1. ลักษณะของบัวดอย
    • บัวดอย ลักษณะ ใบทรงหัวใจที่สวยงาม มีสีเขียวเข้ม และบางกรณีอาจมีลายดงนั้นตามใบ
    • ลำต้นของบัวดอยมีลักษณะเล็กและสูงพอประมาณทำให้เหมาะกับการปลูกในพื้นที่จำกัด
  2. การขยายพันธุ์ของบัวดอย
    • บัวดอยการขยายพันธุ์ ได้ทั้งแบบเมล็ดและการตอนกิ่ง
    • การเพาะเมล็ดในดินร่วนและรดน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยในการเริ่มต้นการปลูก
  3. การปลูกบัวดอย
    • บัวดอย การปลูกเลือกที่ปลูกที่มีดินร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี
    • ประทับใจแสงแดดเต็มที่หรือร่มเงาบางๆ และรดน้ำให้เพียงพอ
  4. ต้นบัวดอย ราคา
    • ราคาของต้นบัวดอยอาจแตกต่างกันไปตามขนาดของต้น และสถานที่ที่คุณซื้อ
  5. ชื่อสามัญของบัวดอย
    • บัวดอย ชื่อสามัญคือ “Dieffenbachia” ซึ่งมีหลายสายพันธุ์และพันธุกรรมที่แตกต่างกัน
  6. คำแนะนำในการดูแล
    • บัวดอย ดูแล รดน้ำเพียงพอและไม่ให้น้ำท่วมขัง
    • ควรเก็บอยู่ในที่ร่มเงาหรือได้รับแสงแดดต่ำ

การดูแลและปลูก บัวดอย

การดูแลและปลูกบัวดอยต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ต้นไม้ที่สมบูรณ์แข็งแรงและมีลักษณะที่สวยงาม นอกจากนี้การใช้บัวดอยเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งทั้งภายในบ้านและพื้นที่สาธารณะมีความนิยมเนื่องจากความงามและความหลากหลายทางด้านการออกดอกและลักษณะของใบที่น่าทึ่ง

การดูแลบัวดอย

  • การรับแสง
    • ต้นบัวดอย มีความรับแสงที่ดีและสามารถปรับตัวได้ตามระดับแสงในสภาพแวดล้อม
  • ปัญหาที่เป็นไปได้
    • บัวดอยมีบางสายพันธุ์ที่มีน้ำยาพิษ ทำให้ควรระวังไม่ให้สัมผัสโดยตรงกับน้ำยาที่อยู่บนใบ
  • การให้ปุ๋ย
    • การให้ปุ๋ยสามารถทำได้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อปีด้วยปุ๋ยสำหรับต้นไม้ในบ้าน
  • การตัดแต่ง
    • ควรตัดแต่งใบที่แห้งหรือเสื่อมโทรมเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์
  • การขยายพันธุ์
    • สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแบ่งหรือตอนกิ่ง
  • การรักษาสภาพแวดล้อม
    • ควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่ที่มีลมพัดแรงหรืออยู่ในพื้นที่ที่อากาศแห้งมาก
  • การดูแลเพื่อป้องกันโรค
    • ควรเช็คสภาพใบเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและแมลง
  • การใช้เป็นตกแต่งภายใน
    • บัวดอยเป็นไม้ประดับที่น่าสวยงามและมีความหลากหลายในสไตล์ตกแต่งภายใน
  • การใช้ในสวน
    • บางครั้งบัวดอยถูกนำมาใช้ในการประดับสวนหรือลานจอดรถเพื่อเพิ่มความเขียวสดและความสวยงาม

บัวดอย นิยมในการปลูกในบ้าน

การปลูกและดูแลบัวดอยไม่เพียงแค่สร้างความสวยงามให้กับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ แต่ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และการเพิ่มคุณค่าให้กับทัศนคติในการดูแลสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน

  • การเลี้ยงในบ้าน
    • บัวดอยเป็นที่นิยมในการปลูก ต้นไม้ในบ้าน เนื่องจากสามารถปรับตัวได้ทั้งในระดับแสงและอุณหภูมิ ทำให้เป็นพืชที่เลี้ยงได้ดีในสภาพอากาศภายในบ้าน
  • การให้น้ำ
    • การรดน้ำควรเป็นอย่างมีระบบเพื่อป้องกันการขาดน้ำหรือน้ำท่วม
  • การใช้เป็นสัญลักษณ์
    • บัวดอยเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์ในวัฒนธรรมไทย มักนำมาใช้ในพิธีกรรมและงานวันสำคัญ
  • การเรียนรู้เพิ่มเติม
    • การเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะต่าง ๆ ของบัวดอยและวิธีการดูแลรักษาจะช่วยให้คุณมีประสบการณ์การเพาะปลูกที่ประสบความสำเร็จ
  • การสนใจจากสวนพฤกษศาสตร์
    • บัวดอยมีความนิยมในวงการสวนพฤกษศาสตร์เนื่องจากมีการศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
  • การเป็นอาชีพ
    • ในบางที่การปลูกและขายบัวดอยอาจเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความต้องการในตลาด
  • การส่งเสริมสุขภาพ
    • การมีพืชในบ้าน เช่น บัวดอย ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียด
Categories
ไม้ประดับ

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง ชื่อดูน่ากลัว แต่น้องหน้าตาน่ารักนะบอกเลย

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง อีกหนึ่งไม้ยอดฮิตที่เราจะเห็นได้ตามคาเฟ่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือบ้างบ้านก็ปลูกไว้เต็มเลย สำหรับตีนตุ๊กแกฝรั่งนั้น เดิมทีเป็นไม้เลื้อยที่เกาะอาศัยตามต้นไม้ใหญ่ ๆ แต่เราสามารถนำมาปลูกติดกับกำแพงได้ เพราะจะช่วยให้กำแพงดูมีสีสัน โดยเป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกกำแพง รอบบ้าน หรือจะมาปลูกในอาคารประดับห้องสวย ๆ ก็ยังได้ ด้วยการปลูกในกระถางแขวน โดยให้เถาและใบห้อยย้อยลงมา ซึ่งดูแล้วน่ารักและสวยงามในเวลาเดียวกันเอามาก ๆ เลยล่ะ

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง นิยมในไทยมากขนาดไหนกันนะ

ตีนตุ๊กแกฝรั่งหลาย ๆ คนไม่ค่อยรู้จัก เพราะชื่อน้องดูเอาน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ (สำหรับคนกลัวตุ๊กแกเฉพาะเลย) แน่นอนว่าชื่อนั้นก็ได้มาจากความสามารถในการปีนไปเลื้อยไปตามกำแพงผนังเพดานนั่นเอง โดยมีชื่ออีกอย่างว่าบอสตันไอวี่ โดยเจ้าบอสตันไอวี่ ปลูกในไทย ก็มีมานานมากแล้ว แต่ถ้าถามถึงความนิยม ก็เป็นที่นิยมอยู่ในระดับนึงเลย พอหาซื้อง่าย ราคาถูกมากอีกด้วย  

ตีนตุ๊กแกฝรั่งราคาถูกที่ว่า คือถูกจริง ๆ นะไม่ได้โม้

ตีนตุ๊กแกฝรั่งเป็นไม้เลื้อยที่มีความสวยงามเอามาก ๆ สำหรับคนที่ชอบต้นไม้แบบแขวน เพราะหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ดูแลก็ไม่ยาก ทำให้ บอสตันไอวี่ ราคามีได้ตั้งแต่ 4-5 บาทเอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความยาว ความสวยงามอีกด้วย ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

ตีนตุ๊กแกฝรั่งเรื่องของการปลูกไม่ยากเลยแหละ  

        ตีนตุ๊กแกฝรั่งจริง ๆ บางบ้านแถมไม่ต้องดูแลอะไรมากมายเลื้อย เพราะหากน้องต้องการแสงก็เลื้อยหาเองได้เลย แต่ก็ต้องดูแลเรื่องน้ำด้วย แน่นอนว่าถ้ามีการปลูก บอสตันไอวี่ แบบเป็นกระถางแล้วเนี่ยก็ต้องดูเรื่องของแสง และน้ำเป็นสำคัญมาก เพราะตีนตุ๊กแกชอบน้ำและชอบแสงแดดเอามาก ๆ จึงขอแนะนำสำหรับคนที่ปลูกแบบกระถางแขวน ให้เอาไว้ริมระเบียง หน้าต่าง หน้าบ้าน จะช่วยเรื่องแสงได้ดี ทั้งนี้ เรื่องของน้ำก็อย่าลืมพรมที่ใบไม้ด้วยนะ เพื่อความชุ่มฉ่ำอีกด้วย

บอสตันไอวี่ ปลูกหน้าระเบียงคือดีมาก

        ตีนตุ๊กแกฝรั่ง หรือเจ้าต้นไอวี่ เนี่ย เพราะดูแลไม่ยาก ทำให้เราสามารถเลือกปลูกได้เกือบทุกส่วนของบ้าน (ยกเว้นในห้องน้ำที่เพราะไม่ค่อยมีแสง) แล้วคือความสวยของเจ้าไอวี่ก็มาจากน้องที่เลื้อยลงมานั่นเอง จะให้โชว์ความสวยงามของน้องให้มากที่สุดเนี่ย เห็นจะต้องปลูกไว้หน้าบ้านกับริมหน้าต่าง ริมระเบียงดีที่สุดแล้ว ใครผ่านมาเห็นก็ต้องสะดุดตากับความปังนี้อย่างแน่นอน

แล้วคนส่วนมากนิยม ขาย บอสตันไอวี่ กันที่ไหนบ้าง

            หาซื้อได้ในร้านขายต้นไม้ทั่วไปเลย หากจะสั่งออนไลน์ก็มีหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นในช็อปปี้ ลาซาด้าก็มีหมดเลยทั้งของจริงของปลอม หรือจะหาซื้อในเพจเฟสบุ้คก็ได้เช่นกัน หาง่าย ราคาไม่แพง สำหรับคนเริ่มปลูกต้นไม้ก็ลองหาซื้อดูได้เลย

สนับสนุนโดย https://slot-allbet.com/ แหล่งรวม http://pg slot หรือ พีจีสล็อต ***ใส่ลิงค์ https://slot-allbet.com/pg-slot-or-pg-slot/

Categories
ไม้ประดับ

สายป่านดวงใจ ไม้ประดับที่ใครได้เห็นก็ต้องดีต่อใจ

สายป่านดวงใจ

สายป่านดวงใจ หนึ่งในไม้ประดับที่มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ที่เหมาะกับการนำมาห้อยประดับบ้าน และสวนเป็นอย่างยิ่ง โดยลักษณะของไม้ประดับชนิดนี้นอกจากจะมีเคลือยาวระย้าแล้ว ลักษณะของใบยังมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับหัวใจ จึงทำให้ไม้ชนิดนี้ได้ชื่อว่า “สายป่านดวงใจ” นั่นเอง

สายป่านดวงใจ ดูแลง่าย แถมยังเหมาะกับทั้งปลูกประดับบ้าน และส่งต่อเป็นของขวัญที่สุด

สายป่านดวงใจนับว่าเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แต่ก็อาจจะมีหลายคนที่พอจะเคยได้เห็นไม้ชนิดนี้ผ่านตามาบ้าง แต่อาจจะยังไม่ทราบว่าไม้ประดับชนิดนี้มีชื่อว่าอะไร ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้กับ ต้นสายป่านหัวใจ และสายป่านดวงใจมีกี่สายพันธุ์

โดยสายป่านดวงใจ ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ceropegia woodii Schltr ซึ่งจะมีสายพันธุ์ในพืชสกุลนี้อยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่เราน่าจะรู้จักกันอย่างแพร่หลายเช่น chain of hearts, collar of hearts, string of hearts, rosary vine, hearts-on-a-string และ sweetheart vine เป็นต้น โดยเราสามารถเรียกไม้ประดับที่มีชื่อสามัญต่าง ๆ เหล่านี้ว่า “สายป่านหัวใจ” ได้ทั้งหมด

สายป่านดวงใจ

วิธีดูแลต้นสายป่านดวงใจ

สายป่านดวงใจดูแล ไม่ยากอย่างที่คิด โดยไม้ชนิดนี้นับว่าเป็นไม่ที่โตค่อนข้างช้า แต่ข้อดีของไม้โตช้าคือเรารู้สึกเหมือนได้สตาฟต้นไม้ของเราให้ได้ดูไปนาน ๆ และวิธีดูแลง่าย ๆ มีดังนี้

  • น้ำ ปริมาณของน้ำที่ต้นไม้สายพันธุ์นี้ต้องการจะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งเราแนะนำให้รดวันละ 1 ครั้ง ในช่วงเช้า แต่หากเป็นต้นที่ปลูกไว้นอกบ้าน เราแนะนำให้รดในช่วงเช้า – เย็น (2 ครั้ง / วัน)
  • ดิน วัสดุที่ใช้ในการปลูกเราแนะนำให้ใช้เป็นดินร่วน ผสมกับกาบมะพร้าว หรือเฟิร์น เนื่องจากวัสดุชนิดนี้จะมีคุณสมบัติที่สามารถระบายน้ำได้ดี แต่ในขณะเดียวกันยังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
  • แสงแดด ปริมาณแสงแดดที่เหมาะกับไม้ชนิดนี้ควรเป็นแดดช่วงครึ่งเช้า ดังนั้นหากใครที่ปลูกไม้ชนิดนี้ไว้นอกบ้าน เราแนะนำให้ปลูกในที่ที่มีร่มบังแสงให้กับต้นไม้
  • ปุ๋ย ปุ๋ยที่ให้นั้นสามารถใช้เป็นปุ๋ยชนิดใดก็ได้ โดยให้ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากเป็นปุ๋ยชนิดละลายช้า ก็จะขึ้นอยู่ตามระยะเวลาในการละลายของปุ๋ย ซึ่งอาจจะอยู่ที่ 3 – 6 เดือน นอกจากนี้แล้ว เมื่อเรานำการใส่ปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้นำหินภูเขาไฟ เบอร์ 00 ปิดหน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้น

ราคาและ 3 ร้านขายต้นสายป่านดวงใจบน Instagram ที่เราอยากแนะนำ

สำหรับสายป่านดวงใจยังนับว่าเป็นต้นไม้ประดับที่ราคายังไม่สูงมากนัก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และขนาดของแต่ละต้น โดยสายป่านดวงใจ ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 20 – 2,500 บาท ซึ่งเรามี 3 ร้านขายต้นสายป่านดวงใจบน Instagram มาแนะนำ เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่อยากได้ต้นสายป่านดวงใจสามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อไม้ประดับชนิดนี้

3 ร้านขายต้นสายป่านดวงใจบน Instagram

สายป่านดวงใจ

Cactus.My Home ร้านขายแคคตัสปลูกเอง และไม้ประดับหลากหลายชนิดรวมไปถึง สายป่านดวงใจ และ สายป่านดวงใจด่างชมพู ราคา ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น

สายป่านดวงใจ

Meena Graden ร้านขายไม้ประดับสวย ๆ ที่มีไม้ประดับให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ ที่พิเศษสุด ๆ คือ ต้นสายป่านดวงใจ ที่ทางร้านการันตีว่าเป็นสายพันธุ์นำเข้าจากประเทศฮอนแลนด์เลยทีเดียว

สายป่านดวงใจ
  • Sea.sawseenplants ร้านขายไม้ประดับ ที่มีไม้ประดับให้เลือกหลายหลายชนิด รวมไปถึงสายป่านดวงใจ ที่มีให้เลือกเป็นจำนวนมาก และมีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น

            สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากปลูกสายป่านดวงใจแต่อยากทราบว่า เราจะสามารถใช้ดิน หรือวัสดุชนิดอื่นในการปลูกได้หรือไม่ คำตอบคือได้ เพราะนอกจากคุณจะสามารถใช้ดินร่วนผสมกาบมะพร้าวในการปลูกได้แล้ว คุณยังสามารถใช้ ดินร่วน ผสมกับกาบมะพร้าวสับ แกลบเผา หินภูเขาไฟ00 และก้ามปูหมักมาผสมให้เข้ากันก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่หากใครที่ไม่สามารถหาซื้อวัสดุต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ก็สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้เช่นกัน

Categories
ไม้ประดับ

พิทูเนีย ไม้ดอกสีสันสดใส เหมาะกับการนำไปประดับตกแต่งบ้าน

พิทูเนีย

พิทูเนีย คือไม้ดอกไม้ประดับขนาดเล็ก ที่นิยมปลูกใส่กระถางและนำไปวาง หรือห้อยประดับส่วนต่าง ๆ ของสวนและตัวบ้าน โดยไม้ประดับชนิดนี้มีมากถึง 20 สายพันธุ์ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับไม้ประดับที่เป็นที่นิยมหลาย ๆ ชนิดในไทย

พิทูเนีย

พิทูเนีย ดูแลไม่ยาก ปลูกง่ายเพียงใช้เมล็ด

            พิทูเนียเป็นต้นไม้ประดับที่นอกจากจะดูแลง่ายแล้ว ยังมีขั้นตอนในการเพาะปลูกที่ง่ายอีกด้วย และวันนี้เว็บไซต์ของเราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการปลูก และขั้นตอนในการดูแลดอกพิทูเนีย มาฝากทุกคนแล้ว

วิธีปลูกพิทูเนีย

            การปลูกพิทูเนียนั้นสามารถทำได้จากหลายวิธี โดยเราแนะนำการปลูกด้วยการ เพาะเมล็ดพิทูเนีย เนื่องจากจะทำให้ได้ต้นพิทูเนียจำนวนมาก และยังเป็นกิจกรรมที่เรายังจะได้ทำด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้น โดยขั้นตอนในการเพาะปลูกพิทูเนียมีดังนี้

  1. นำดินซึ่งสามารถใช้เป็น พีทมอส หรือดินผสมขุยมะพร้าวใส่ในวัสดุที่ต้องการใช้ในการเพาะเมล็ด (แนะนำให้ใช้ถาดเพาะ)
  2. จากนั้นรดน้ำให้ดินที่อยู่ในถาดเพาะให้มีความชุ่มชื้น แล้วนำไม้จิ้มฟังหรือไม้เล็ก ๆ ขุดรูขนาดที่พอให้สามารถหยอดเมล็ดพิทูเนียลงไปลูกได้ และเมื่อขุดรูเรียบร้อยแล้วก็สามารถนำเมล็ดหยอดลงไปในรูได้เลย
  3. แนะนำให้หยอดรูละ 2 – 3 เมล็ด จากนั้นกลบหลุมเรียบร้อย และนำถาดเพาะไปวางไว้ในที่ที่มีแสงรำไรระหว่างนั้นให้รดน้ำต้นกล้าวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ ก็สามารถย้ายต้นกล้าไปปลูกในกระถางได้เลย
พิทูเนีย

วิธีดูแลพิทูเนีย

ดิน การดูแลพิทูเนีย หลังจากที่นำต้นกล้ามาปลูกในกระถางต่อก็มีขั้นตอนที่ไม่ยากนัก โดยดินที่ใช้ในการปลูกสามารถใช้เป็นดินชนิดเดียวกับที่ใช้เพราะเมล็ด และแนะนำให้นำกาบมะพร้าวสับปิดบริเวณหน้าดินไว้

น้ำ การรดน้ำ แนะนำให้รดน้ำวันละ 2 ครั้ง โดยแบ่งรดเป็นช่วงเช้า – เย็น

แสงแดด ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่ไม่ชอบแสงแดดจัดสักเท่าไร ซึ่งเราแนะนำให้วางกระถางในตำแหน่งที่มีแสงแดดร่ำไรจะเหมาะสมที่สุด

ปุ๋ย การให้ปุ๋ยสามารถให้ได้ทุกชนิด แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นปุ๋ยชนิดละลายช้าเนื่องจากหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายไม้ประดับทั่วไป และที่สำคัญยังอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือนเลยทีเดียว

พิทูเนีย

พิทูเนียหาซื้อง่าย แถมยังราคาถูก

            สำหรับใครที่อยากได้พิทูเนีย สวย ๆ ต้องบอกเลยว่าไม้ประดับชนิดนี้นับว่าเป็นหนึ่งในไม้ดอก ไม้ประดับที่หาซื้อได้ง่ายเป็นอันดับต้น ๆ โดยหาซื้อได้จากทั้งทางออนไลน์ และตามร้าน และตลาดต้นไม้ โดย พิทูเนียราคา จะอยู่ที่ประมาณ 70 – 500 บาท ต่อกระถาง และหากใครที่อยากได้เมล็ดไปเพาะปลูกด้วยตัวเอง แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป เช่น พิทูเนียเวฟ 100 เมล็ด ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 500 – 600 บาท

            อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า พิทูเนีย เป็นไม้ประดับที่มีหลากหลายสายพันธุ์ และแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป และที่สำคัญไปกว่านั้นแต่ละสายพันธุ์ยังจะมีราคาที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่อยากหาไม้ประดับที่ปลูกง่าย และขายได้กำไรดี พิทูเนียก็นับว่าเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

Categories
ไม้ประดับ

พลูปีกนก ไม้ใบที่เหมาะกับการนำมาตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์

พลูปีกนก เป็นหนึ่งไม้ใบ ไม้ประดับที่อยู่ในสกุลเดียวกับพลูด่าง และพลูอีกหลาย ๆ ชนิด โดยไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศเวเนซุเอลา ทวีปอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับมอนสเตอร่าหลาย ๆ ชนิด โดยชื่อทางวิทยาศาสตร์ของไม้ชนิดนี้คือ Monstera Karstenianum Peru (มอนสเตอร่า เปรู) ซึ่งนอกจากจะมีความสวยที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังเจริญเติบโตค่อนข้างเร็วอีกด้วย

พลูปีกนก เลี้ยงง่าย โตไว เหมาะกับทั้งปลูกทั้งในและนอกตัวบ้าน

พลูปีกนกหรือ พลูใบย่น นับว่าเป็นไม้ใบ ไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่หลายคนต่างบอกว่าเป็นไม้ที่โตเร็ว ดูแลง่าย และที่สำคัญสามารถปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน โดยไม้ชนิดนี้เป็นไม้เลื้อย ที่มีอายุยืน สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการปลูก หรือเลี้ยงต้นไม้ชนิดนี้ หรือไม้ในกลุ่มพลูก็นับว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

พลูปีกนก วิธีดูแล

สำหรับใครที่สงสัยว่าพลูปีกนก เลี้ยงยังไง วันนี้เรามีวิธีดูแล หรือเลี้ยงไม้ชนิดนี้ง่าย ๆ มาแนะนำ เนื่องจากไม้ชนิดนี้สามารถปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน ดังนั้นวิธีดูแลจึงจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยมีดังนี้

ดิน ดินที่เหมาะกับไม้ชนิดนี้แนะนำให้ใช้เป็นดินร่วน ซึ่งสามารถเป็นดินที่ผสมกับกาบมะพร้าว หรือใบก้ามปูหมักก็ได้เช่นกัน

น้ำ พืชชนิดนี้เป็นพืชที่ค่อนข้างที่จะชอบน้ำพอสมควร โดยเราแนะนำให้รดวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้า โดยควรรดให้ชุ่ม แต่หากปลูกนอกตัวบ้านแนะนำให้รด 2 ครั้ง / วัน

แสงแดด ปริมาณแสงที่เหมาะสมคือแสงรำไร ไม่ควรร้อยจัดจนเกินไป เพราะจะทำให้ใบเฉาได้ แต่หากปลูกนอกบ้านแนะนำให้ปลูกในตำแหน่งที่มีร่มเงาจะดีที่สุด

ปุ๋ย สามารถให้ปุ๋ยได้ทุกชนิด โดยแนะนำให้เพียงเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากเป็นปุ๋ยชนิดละลายช้า จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อยให้ปุ๋ยอีกครั้ง

3 ร้านขายพลูปีกนกบน Instagram พร้อมกับราคาตามท้องตลาด

สำหรับพลูปีกนกหากเป็นสายพันธุ์ทั่วไปจะมีราคาจะไม่สูงมากนัก โดย พลูปีกนกราคา จะอยู่ที่ประมาณ 60 – 500 บาท ยกเว้นกรณีที่เป็น พลูปีกนกด่าง หรือ พลูปีกนกด่างเหลือง ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่าสายพันธุ์ธรรมดาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท

3 ร้านขายพลูปีกนกบน Instagram

  • Kiddee_garden

ฟาร์มที่เพาะและจำหน่ายไม้ประดับ ไม้ฟอกอากาศ และไม้ด่างหลากสายพันธุ์ที่มีให้เลือกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมี ดินและปุ๋ยน้ำสูตรพรีเมี่ยม เรียกว่ามาร้านเดียวได้ครบทุกอย่าง

  • Thebeansplants

ร้านขายไม้ประดับขนาดจิ๋ว เหมาะกับการนำไปวางประดับไว้ในส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้เลย นอกจากนี้ยังมีกระถางน่ารัก ๆ พร้อมพร็อพสำหรับนำไปตกแต่งไม้ประดับอีกมากมาย

  • Plant.nnn

ร้านขายไม้ประดับและไม้ด่าง ที่มีไม้ให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ ที่สำคัญยังมีราคาที่ย่อมเยามีเงินหลักร้อยก็สามารถเป็นเจ้าของพลูปีกนก และไม้ด่างสวย ๆ ได้

บทสรุป

สำหรับพลูปีกนกจัดว่าเป็นกลุ่มไม้เลื้อย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากปลูกไว้นอกบ้าน และทำเป็นซุ้มประตูหรือประดับส่วนต่าง ๆ ที่ต้องอยู่ในตำแหน่งที่มีแสงแดดร้อนจัด เราอยากแนะนำให้ปลูกพลูในร่มให้มีขนาดต้นที่โต และมีความแข็งแรงในระดับหนึ่งก่อน ก่อนที่จะนำไปปลูก หรือวางในตำแหน่งที่ต้องการ เพราะหากเป็นต้นที่มีอายุยังน้อย หรือโตยังไม่เต็มที่ก็อาจจะทำให้ต้นไม้ของเราตายได้

Categories
ไม้ประดับ

เดฟหัวใจ ไม้ประดับราคาถูก ที่หาซื้อได้ง่าย แถมสวยเป็นเอกลักษณ์

เดฟหัวใจ ต้นไม้ประดับราคาถูกที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ทราบว่าต้นไม้ชนิดนี้ชื่ออะไร โดยไม้ประดับชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dischidia ruscifolia Decne. ex Becc. ซึ่งเป็นประเภทไม้เลื้อย และนิยมนำมาจำหน่ายโดยนำไปใส่กระถางสำหรับห้อย หรือดัดเป็นรูปต่าง ๆ ให้เกิดความสวยงาม และเป็นการเพิ่มมูลค่าอีกด้วย

เดฟหัวใจ ดูแลไม่ยาก ขยายพันธุ์เร็ว เหมาะกับการปลูกเพื่อสร้างรายได้

เดฟหัวใจหรือ หัวใจล้านดวง นับว่าเป็นไม้ประดับที่โตง่าย มีขั้นตอนในการดูแลที่ไม่ซับซ้อนมากนัก และที่สำคัญยังสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเหมาะกับทั้งการนำไปประดับบ้าน หรือนำไปขยายพันธุ์เพื่อสร้างรายได้เป็นอย่างยิ่ง

เดฟหัวใจ วิธีดูแล

  • ดิน ดินที่ใช้ในการปลูก แนะนำให้ใช้เป็นดินร่วนผสมกาบมะพร้าว เนื่องจากจะทำให้สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นให้กับต้นไม้ได้เป็นอย่างดี
  • น้ำ การรดน้ำเราแนะนำให้รดน้ำประมาณวันละ 2 ครั้ง (แบ่งเป็นช่วงเช้า – เย็น) เนื่องจากไม้ชนิดนี้จะนิยมนำไปห้อยประดับไว้นอกตัวบ้าน จึงจำเป็นต้องให้ความชุ่มชื่นกับต้นไม้พอสมควร
  • แสงแดด สำหรับใครที่สงสัยว่า เดฟชอบแดดไหม คำตอบคือ เดฟหัวใจชอบแดดรำไร ไม่ร้อนจัดจนเกินไป ดังนั้นจึงควรห้อยกระถางของต้นไม้ในตำแหน่งที่มีแดดส่องถึง แต่ไม่แรงจนเกินไป
  • ปุ๋ย การให้ปุ๋ยไม่จำเป็นต้องให้ถี่เกินไป โดยแนะนำให้ 1 – 2 เดือน /ครั้ง และสามารถใช้เป็นปุ๋ยชนิดใดก็ได้

วิธีขยายพันธุ์

วิธีขยายพันธุ์ของไม้ประดับชนิดนี้สามารถทำได้ง่ายเป็นอย่างยิ่ง โดยเริ่มจากการเลือกกิ่งที่ต้องการนำไปขยายพันธุ์ที่มีความยาวประมาณ 5 – 6 นิ้ว มาวางเตรียมไว้ จากนั้นเตรียมดินที่ต้องการปลูกใส่ลงในกระถาง ซึ่งใช้เป็นกระถางขนาดใดก็ได้ (เลือกให้เหมาะสมกับจำนวนของต้นพันธุ์) จากนั้นก็สามารถนำกิ่งที่จะขยายพันธุ์ไปปักลงดินที่เตรียมไว้ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม รอเวลา 7 – 8 วันรากของกิ่งก็จะเริ่มงอกออกมา ประมาณ 1 เดือนก็สามารถนำไปปลูกต่อได้เลย

ราคา และร้านจำหน่ายเดฟหัวใจที่อยากแนะนำ

เดฟหัวใจเป็นต้นไม้ประดับที่มีราคาถูก และหาซื้อได้ง่ายเป็นอย่างยิ่ง โดย เดฟหัวใจล้านดวง จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20 – 300 บาท ซึ่งนับว่าเป็นต้นไม้ประดับที่ทั้งสวย และมีราคาที่ไม่สูงอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว สำหรับใครที่อยากหาซื้อ ต้นเดฟหัวใจ มาประดับบ้าน หรือ นำมาปลูกขยายพันธุ์ ก็หาซื้อได้ไม่ยากนัก ซึ่งหาซื้อได้ง่าย ๆ จากทั้งร้านค้าออนไลน์ และร้านจำหน่าย หรือตลาดต้นไม้หลาย ๆ แห่ง ดังนั้นหากใครที่อยากได้ไม้ประดับที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพก็สามารถลองนำมาปลูกประดับบ้านซักต้นได้เลย

บทสรุป

ก่อนที่จะจากกันไปในวันนี้เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนที่อยากขยายพันธุ์เดฟหัวใจด้วยตัวเอง ในส่วนของการเลือกดิน หรือวัสดุสำหรับขยายพันธุ์ โดยคุณสามารถใช้ได้ทั้งแบบที่เป็นดินผสมกาบมะพร้าว หรือแบบที่เป็นกาบมะพร้าวล้วนก็ได้เช่นกัน และ 1 กระถางสามารถเพาะชำต้นกล้าได้มากกว่า 1 ต้นอีกด้วย

Categories
ไม้ประดับ

ต้นไอวี่ ไม้เลื้อยยอดนิยม ราคาสบายกระเป๋า

ต้นไอวี่ (Ivy) เป็นไม้เนื้ออ่อน ที่มีหลากหลายสายพันธุ์แตกต่างกันไปตามถิ่นกำเนิด ซึ่งเป็นไม้ที่อยู่ในวงศ์ Araliaceae มีลักษณะของลำต้นที่ทอดเลื้อยยาว ประมาณ 2-4 เมตร ใบไม่ค่อยใหญ่ ลักษณะของใบมีความเว้าเป็นแฉก มีสีเขียวใบด่างออกขาวครีม

เป็นไม้เลื้อยที่สามารถเติบโตได้ดีตามแนวกำแพงบ้าน เหมาะที่จะปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดเพียงรำไร จึงไม่แปลกที่บางบ้านมักจะนำไปปลูกไว้ในที่ร่ม และนับว่าเป็นอีกหนึ่งไม้เลื้อยยอดนิยมที่มักนำไปใช้ประดับตกแต่งเพื่อเพิ่มความเขียวชอุ่ม สดชื่น สบายตา ให้กับบ้าน

ต้นไอวี่ กับสารพัดประโยชน์ที่มากกว่าที่คุณคิด

รู้หรือไม่ต้นไอวี่ประโยชน์ นั้นนานัปการ นอกจากจะช่วยในเรื่องของระบบหายใจ จึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ เนื่องจากมีการศึกษาว่า ต้นไอวี่มีคุณสมบัติในการช่วยลดเชื้อราในอากาศกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ จึงเหมาะที่จำนำไปวางประดับไว้ในห้องนอน หรือมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ ปลอดโปร่ง และปราศจากเชื้อราในอากาศ อันเป็นต้นเหตุสำคัญที่จะทำลายสุขภาพ นอกจากนั้นต้นไอวี่ นี้ยังนับว่าเป็นการใช้ธรรมชาติบำบัดให้กับคนภายในบ้านได้อย่างดี เพราะยังช่วยทำให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า สดชื่น สมองไบร์ทมากขึ้น แถมยังกระตุ้นให้ร่างกายมีการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

วิธีดูแลต้นไอวี่

ต้นไอวี่วิธีดูแล และการปลูกนั้นไม่ยากเลย เพียงใช้ดินร่วมปนทรายในการปลูก เนื่องจากระบายน้ำได้ดี แถมต้นไอวี่ยังชอบแสงแดดเพียงแค่เล็กน้อย เพียงหมั่นรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ เพราะต้นไอวี่นั้นมันชอบความชุ่มชื้น แต่ก็ไม่ควรรดหนักจนมากเกินไป เพียงใช้สเปรย์ฉีดน้ำให้เป็นละอองฝอย ๆ ชุ่ม ๆ วันละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอ สำหรับ การขยายพันธุ์ไอวี่ ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการปักชำกิ่ง นั่นเอง

ฉะนั้น จะเห็นได้ว่าหลายครอบครัว มักจะนำต้นไอวี่ไปปลูกในบ้าน เพื่อทำให้บ้านที่ดูห่อเหี่ยว เหงา มีพื้นที่สีเขียว สบายตา ร่มรื่น แถมยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยมีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดีมากขึ้น นอกจากนั้นต้นไอวี่ ราคาไม่แพงเลย เริ่มต้นเพียงแค่ 50 บาท เท่านั้น จึงไม่แปลกที่พืชชนิดนี้จะเป็นพืชยอดนิยมที่ถูกนำไปปลูกเป็นจำนวนมาก

กล่าวมาถึงขั้นนี้แล้ว หากวันหยุดนี้ คุณไม่มีอะไรทำ และอยากเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้านให้เยอะมากขึ้น คงจะดีไม่น้อย หากคุณเริ่มใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ โดยเริ่มจากการกำเงินเพียงหลักร้อย ไปหาซื้อต้นไอวี่ มาปลูกในบ้าน เพื่อเพิ่มความรื่นรมย์และเพิ่มโอโซนอันแสนสะอาดบริสุทธิ์ให้แก่ปอดของผู้อยู่อาศัยในบ้านได้เป็นอย่างดี

Categories
ไม้ประดับ

เงินไหลมาด่าง 3 สี ไม้ใบยอดฮิต ดูแลง่าย ราคาดี

เงินไหลมาด่าง 3 สี เป็นไม้ประดับที่ถือได้ว่าปลูกง่าย เจริญเติบโตได้เร็ว ไม่เน้นการดูแลที่มากนัก ทำให้พันธุ์ไม้ชนิดนี้ถือเป็นพันธุ์ไม้ยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะสายคนรักต้นไม้อยู่แล้วหรือมือใหม่หัดเลี้ยงก็อาจหลงเสน่ห์น้องได้ไม่ยาก ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกันพันธุ์ไม้ชนิดนี้มากขึ้น ทั้งความเป็นมาและ วิธีการดูแล รับรองเลยว่าถ้าได้รู้จักจะต้องหลงรักอย่างแน่นอน

เงินไหลมาด่าง 3 สี ที่มา พร้อมวิธีการดูแล

เงินไหลมาด่าง 3 สี หรือ Syngonium เป็นพันธุ์ไม้ที่อยู่ในวง บอน ถือเป็นไม้เลื้อยที่มีถิ่นกำเนิดมาจากบริเวณอเมริกาใต้ และค่อยๆขยายพันธุ์ไปทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยเอง ซึ่งตามความหมายแล้ว ต้นไม้ชนิดนี้มีความเชื่อว่า จะนำพาทรัพย์สินและ โชคลาภ มาให้แก่ผู้ปลูก ด้วยลักษณะเป็นพันธุ์ไม้เลื้อยที่ทอดยาวลำต้นอวบ สีเขียวเข้ม แตกกิ่งก้านไปเรื่อยๆ ใบมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจ มีลวดลายที่สวยงาม ทำให้พันธุ์ไม้ชนิดนี้นิยมนำมาปลูกในน้ำวางไว้ตามจุดต่างๆของบ้านเรือน และนอกจากที่ต้นไม้ชนิดนี้จะเป็นไม้มงคลแล้ว เขายังมีคุณสมบัติในการช่วยลดมลพิษในอากาศได้ดีอีกด้วย

สำหรับใครที่อยากจะลองหาต้นเงินไหลมา มาเลี้ยงสักต้นนึง แต่ไม่รู้จะไปหามาจากไหน บอกได้เลยว่าหาได้ไม่ยากเลย เพราะต้นไม่ต้นนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ตามตลาดต้นไม้ทั่วไปก็สามารถหาซื้อได้ ซึ่งก็จะได้ราคาของไม้สายพันธุ์นี้ก็จะขึ้นอยู่กับความสวยของใบและสีของใบ

เคล็ดลับวิธีการดูแลที่ง่ายแสนง่าย

เงินไหลมา ถือเป็นต้นไม้ที่ดูแลง่ายมาก สามารถเจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนโปร่งที่ระบายน้ำได้ดี การผสมวัสดุปลูกจึงนิยมผสมใบก้ามปูหรือกาบมะพร้าวเพื่อเพิ่มพื้นที่ภายในดิน ตำแหน่งการปลูก ต้นไม้ชนิดนี้ชอบแสงแดดร่ำไร จึงเหมาะวางในจุดที่มีเพียงแสงแดดส่องถึงก็เพียงพอ อย่างเช่นริมระเบียงเป็นต้น แต่ถ้าเลี้ยงไปสักระยะนึงจนต้นมีขนาดใหญ่แข็งแรงแล้ว ก็สามารถที่จะวางกลางแดดจัดได้ เพราะใบจะหนาขึ้นสามารถทนต่อแดดจ้าได้ดี

นอกจากจะปลูกลงดินแล้วหลายๆคนก็นิยมนำมาปลูกใส่แจกันปลูกในน้ำวางไว้ตามจุดต่างๆก็ดูเป็นการแต่งบ้านที่ มินิมอลไปอีกแบบ ในส่วนของการขยายพันธุ์นิยมใช้การปักชำโดยเลือกกิ่งที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้มีลำต้นที่แข็งแรง ทนต่อสภาพแวดล้อม เงินไหลมาสามกษัตริย์ ถือเป็นอีกหนึ่งต้นไม้มาแรง ในตลาดต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง ด้วยลักษณะที่สวยงาม เลี้ยงดูง่าย และมีความหมายมงคล จึงไม่แปลกที่จะเป็นที่นิยมอย่างมาก สำหรับใครที่สนใจก็ลองหามาปลูกกันได้ รับรองเลยว่า ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

ราคาของต้น เงินไหลมาด่าง 3 สี

ต้นเล็ก  เริ่มต้นที่ประมาณ 300-500 บาท

ถ้าโตขึ้นมาเป็นต้นใหญ่แล้ว ราคาเริ่มต้นที่  1000-20000 บาทเลยทีเดียวค่ะ

Categories
ไม้ประดับ

เขียวหมื่นปี ต้นไม้มหามงคล ที่คนนิยมปลูก

เขียวหมื่นปี (Chinese Evergreen) ยังคงเป็นต้นไม้ยอดนิยมของคนในยุคนี้ เพราะด้วยลวดลายที่สวยสดงดงาม แต่ละใบมักจะไม่มีความคล้ายคลึงกัน มีความแปลกแต่สวยงาม ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ นอกจากนั้นเขียวหมื่นปี ความหมายของชื่อก็มีความเป็นมงคลไม่น้อย จึงไม่แปลกที่ต้นไม้พันธุ์นี้จะต้องถูกนำมาปลูกประจำบ้านของคนมากมาย หรือแม้แต่นำไปปลูกเป็นไม้ประดับในห้อง ก็ช่วยเพิ่มความสงบร่มรื่น สดชื่นได้ดีเลยทีเดียว

เขียวหมื่นปี แม้จะดูแลน้อย แต่กลับเติบโตเจริญงอกงามได้ดี

เขียวหมื่นปี เป็นต้นไม้ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มอโกลมีนา ถิ่นกำเนิดอยู่แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย แอฟริกา และจีนตอนใต้เป็นหลัก มักชอบขึ้นตามพื้นที่สภาพอากาศร้อนชื้น เขียวหมื่นปี ลักษณะโดยรวม คือ เป็นไม้ล้มลุกขนาดเล็ก จำพวก ว่าน และนับเป็นพืชเลี้ยงเดี่ยว มีระบบรากเป็นรากฝอย ลำต้นตั้งตรง แต่ค่อนข้างอ่อน รูปร่างเรียวยาว ใบมีสีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม และมีด่างเล็กน้อยออกขาว หรือ เหลือง

เขียวหมื่นปี แม้จะโดยรวมจะดูเหมือนเป็นพืชที่ค่อนข้างบอบบาง แต่อันที่จริงแล้วกลับปลูกและเลี้ยงง่ายมาก แทบจะไม่ต้องดูแลเอาใจใส่อะไรมากนัก แถมยังทนทาน เพราะชอบขึ้นในพื้นที่ที่มีสภาพแห้งแล้ง ความชื้นน้อย และเติบโตได้ดีมากในสถานที่ที่มีแสงสว่างเล็กน้อย

เมื่ออายุมากขึ้นถึง 18-20 เดือน ก็นับว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับต้นเขียวหมื่นปีออกดอก ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับดอกไม้ที่อยู่ในวงศ์บอนทั่วไป ดอกจะมีลักษณะเป็นดอกเดี่ยวบริเวณง่ามใบ และมีกาบหุ้มดอกรูปไข่ รวมทั้งมีเกสรตัวผู้อยู่ด้านบน และเกสรตัวเมียอยู่ด้านล่าง และลักษณะเด่นอีกอย่าง คือ แม้ว่าลำต้นจะไม่สูงมากนัก แต่ใบของเขียวหมื่นปีกลับมีลวดลายที่สวยสะดุดตาเป็นอย่างมาก อีกทั้งพืชชนิดนี้ยังมีความสามารถในการคายความชื้นสูงและเหมาะสมในการดูดสารพิษพวก ฟอร์มัลดีไฮด์ เป็นอย่างดี จึงไม่แปลกที่ต้นเขียวหมื่นปีจะเป็นไม้ประดับยอดนิยมอีกชนิดหนึ่งที่มีประสิทธิภาพในการดูดสารพิษได้ดี

วิธีปลูกและวิธีดูแลต้นเขียวหมื่นปี

ต้นเขียวหมื่นปี ควรปลูกในที่ที่ต้องการน้ำและความชื้นที่พอเหมาะ เพียงใช้ปุ๋ยหมัก และรดน้ำเดือนละครั้ง และจัดวางอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการแสงแดดมากมาย เพียงแค่ 30% – 40% ก็เพียงพอแล้ว เพราะพืชชนิดนี้ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้งได้ดี

ต้นเขียวหมื่นปี นับว่าเป็นต้นไม้ที่หาได้ไม่ยากในร้านขายไม้ประดับไม้มงคลทั่วไป แถมยังขยายพันธุ์ได้ง่าย จึงทำให้ เขียวหมื่นปี ราคาเริ่มต้นไม่แรงอยู่ที่ประมาณหลักสิบต้นๆ จึงถึงระดับราคาหลายพัน สำหรับต้นที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่และมีอายุอยู่ราวๆ 3-5 ปี จึงนับว่าต้นเขียวหมื่นปี เป็นไม้ประดับที่เหมาะสมสำหรับทุกบ้าน เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล และบรรยากาศดีๆ ให้กับคนที่อยู่อาศัย

Categories
ไม้ประดับ

แก้วกาญจนา ไม้ประดับยอดนิยมประจำบ้าน ปลูกไว้มีแต่เจริญรุ่งเรือง

แก้วกาญจนา เป็นไม้มงคลที่ได้รับพระราชทานชื่อจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2549 ซึ่งหมายถึง “งดงามสว่างไสวและสุกสว่างดุจดั่งทอง” เพราะด้วยลักษณะของใบที่มีสีสันสดใสสว่างงดงาม จึงไม่แปลกที่ปัจจุบันจะนิยมปลูกไว้เพื่อเป็นไม้เศรษฐกิจเพื่อส่งออกไปต่างประเทศ แถมยังสร้างชื่อเสียงได้ไกลไปทั่วโลก

แก้วกาญจนาไม้มงคลที่อยู่ในตระกูลอโกลมีนา มีลักษณะของใบที่มีลวดลาย สีสันสวยงาม โดดเด่น แถมยังดูแลง่าย ช่วยฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ เพียงวางตั้งไว้ในห้องในบริเวณที่มีแสงน้อยได้ดี จึงไม่แปลกที่ผู้คนนิยมนำมาปลูกเป็นไม้ประดับประจำบ้าน เพราะนอกจากจะมีความสวยงาม ช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับบ้านแล้ว ยังช่วยเพิ่มโชคลาภและเสริมสิริมงคลในแบบเฉพาะ สำหรับผู้ที่เพาะเลี้ยง บางคนชอบปลูกแก้วกาญจนาตามทิศต่าง ๆ เพื่อเสริมสิริมงคลด้านความรัก บางคนก็ปลูกเพื่อเสริมด้านเมตตามหานิยมโดยมักจะปลูกเรียงรายเป็นแถวสวยงามบริเวณทางเข้าบ้าน 

วิธีการดูแล

แก้วกาญนาดูแลรักษาได้ง่าย ๆ เพราะต้องการแสงแดดรำไร เพียงปลูกในดินร่วมซุย และรดน้ำเบา ๆ สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

แก้วกาญจนา กับความเชื่อ

อาจกล่าวได้ว่าแก้วกาญจนาความเชื่อ นั้นเป็นของคู่กัน ปัจจุบันมักเชื่อกันว่า แก้วกาญจนา เป็นไม้มงคลที่ควรแก่การปลูกไว้ติดบ้าน เพราะจะนำพามาซึ่งโชคลาภและอำนาจวาสนา ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านก็จะมีอายุยืนยาว สุขภาพแข็งแรง และเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับลูกหลานในบ้าน รวมทั้งคนที่ค้าขาย เมื่อปลูกต้นแก้วกาญจนา ไว้ ก็จะช่วยส่งเสริมการค้าให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า หรือแม้แต่บางบ้านก็ปลูกเพราะเชื่อในด้านการเสริมเสน่ห์ ความรัก ความเมตตา ซึ่งการปลูกพืชชนิดนี้โดยเน้นเสริมในด้านความรักจะต้องอิงกับวันเกิดของผู้ที่ปลูกด้วย อย่างเช่น การปลูกแก้วกาญจนาในทิศตะวันตกจะเหมาะสมกับคนเกิดวันจันทร์ ในขณะที่คนเกิดวันพุธจะต้องปลูกทางทิศใต้ เป็นต้น

แก้วกาญจนากับ 3 สายพันธุ์ยอดนิยม

บางท่านอาจมีคำถามว่า ไม้มงคลยอดนิยมอย่างแก้วกาญจนามีกี่ชนิด กัน? แท้จริงแล้ว แก้วกาญจนามีสายพันธุ์มากมายขึ้นอยู่กับถิ่นกำเนิด แต่หากจะกล่าวถึงสายพันธุ์ที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย อาจสามารถจำแนกเป็น ­3 สายพันธุ์ใหญ่ ๆ ดังนี้

1.แก้วกาญจนาอัญมณี

นับว่าเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะด้วยสีสันโดดเด่น และมีให้เลือกหลากหลายสี มีปลายใบเรียวยาวสีเขียว ตรงกลางจะเป็นลายด่างหลากสีตามชื่อเรียก เช่น หากเรียกว่า แก้วกาญจนาอัญมณีแดง ก็จะมีลายด่างสีชมพูเข้มๆไปจนถึงแดงสด แก้วกาญจนาอัญมณีขาว ก็จะมีลายด่างสีขาวนวล เป็นต้น

2.แก้วกาญจนาบังลังก์ทับทิม

ความโดดเด่นสำหรับแก้วกาญจนาสายพันธุ์นี้อยู่ที่แกนกลางที่เป็นใบสีชมพูสด ลากยาวตั้งแต่โคนไปจนถึงปลายใย ตัดกับพื้นใบสีเขียวได้อย่างลงตัว

3.แก้วกาญจนาสีชมพู

ต้นแก้วกาญจนาชมพู ปลายใบจะเป็นจงอยแกลม แต่โดยรวมมีรูปร่างกว้างสั้น และใบจะมีสีชมพูเกือบทั้งหมดตามชื่อเรียก

อาจกล่าวได้ว่า แก้วกาญจนาเป็นไม้ประดับที่มีความโดดเด่น และเป็นที่นิยมอันดับหนึ่งในไทย และยังเป็นที่ต้องการสูงในต่างประเทศอีกด้วย จึงทำให้แก้วกาญจนา ราคามีความหลากหลาย และราคาแรงในบางพื้นที่ ซึ่งราคาเริ่มต้นที่ ต้นละ 350 บาท นับว่าเป็นไม้ประดับที่น่าจับตามองสายพันธุ์หนึ่งของไทย