Categories
การจัดสวน หน้าแรก ไม้ประดับ

บัวดอย ไม้ประดับ ที่นิยมปลูกในบ้าน

บัวดอย


บัวดอย เป็นไม้ประดับที่มีความงามและมีลักษณะเด่นที่น่าสนใจมาก ไม้ประดับ ที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมในการ ปลูกในบ้าน หรือสวน โดยควรระวังในกรณีที่มีเด็กเล็กเพราะน้ำยาที่อยู่บนใบของบัวดอยอาจสร้างความรุนแรงถ้าถูกทาและได้รับการสัมผัส นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับบัวดอย

  1. ลักษณะของบัวดอย
    • บัวดอย ลักษณะ ใบทรงหัวใจที่สวยงาม มีสีเขียวเข้ม และบางกรณีอาจมีลายดงนั้นตามใบ
    • ลำต้นของบัวดอยมีลักษณะเล็กและสูงพอประมาณทำให้เหมาะกับการปลูกในพื้นที่จำกัด
  2. การขยายพันธุ์ของบัวดอย
    • บัวดอยการขยายพันธุ์ ได้ทั้งแบบเมล็ดและการตอนกิ่ง
    • การเพาะเมล็ดในดินร่วนและรดน้ำอย่างสม่ำเสมอจะช่วยในการเริ่มต้นการปลูก
  3. การปลูกบัวดอย
    • บัวดอย การปลูกเลือกที่ปลูกที่มีดินร่วนซุยและมีการระบายน้ำดี
    • ประทับใจแสงแดดเต็มที่หรือร่มเงาบางๆ และรดน้ำให้เพียงพอ
  4. ต้นบัวดอย ราคา
    • ราคาของต้นบัวดอยอาจแตกต่างกันไปตามขนาดของต้น และสถานที่ที่คุณซื้อ
  5. ชื่อสามัญของบัวดอย
    • บัวดอย ชื่อสามัญคือ “Dieffenbachia” ซึ่งมีหลายสายพันธุ์และพันธุกรรมที่แตกต่างกัน
  6. คำแนะนำในการดูแล
    • บัวดอย ดูแล รดน้ำเพียงพอและไม่ให้น้ำท่วมขัง
    • ควรเก็บอยู่ในที่ร่มเงาหรือได้รับแสงแดดต่ำ

การดูแลและปลูก บัวดอย

การดูแลและปลูกบัวดอยต้องทำอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ต้นไม้ที่สมบูรณ์แข็งแรงและมีลักษณะที่สวยงาม นอกจากนี้การใช้บัวดอยเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่งทั้งภายในบ้านและพื้นที่สาธารณะมีความนิยมเนื่องจากความงามและความหลากหลายทางด้านการออกดอกและลักษณะของใบที่น่าทึ่ง

การดูแลบัวดอย

  • การรับแสง
    • ต้นบัวดอย มีความรับแสงที่ดีและสามารถปรับตัวได้ตามระดับแสงในสภาพแวดล้อม
  • ปัญหาที่เป็นไปได้
    • บัวดอยมีบางสายพันธุ์ที่มีน้ำยาพิษ ทำให้ควรระวังไม่ให้สัมผัสโดยตรงกับน้ำยาที่อยู่บนใบ
  • การให้ปุ๋ย
    • การให้ปุ๋ยสามารถทำได้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อปีด้วยปุ๋ยสำหรับต้นไม้ในบ้าน
  • การตัดแต่ง
    • ควรตัดแต่งใบที่แห้งหรือเสื่อมโทรมเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์
  • การขยายพันธุ์
    • สามารถขยายพันธุ์ได้ด้วยการแบ่งหรือตอนกิ่ง
  • การรักษาสภาพแวดล้อม
    • ควรหลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่ที่มีลมพัดแรงหรืออยู่ในพื้นที่ที่อากาศแห้งมาก
  • การดูแลเพื่อป้องกันโรค
    • ควรเช็คสภาพใบเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคและแมลง
  • การใช้เป็นตกแต่งภายใน
    • บัวดอยเป็นไม้ประดับที่น่าสวยงามและมีความหลากหลายในสไตล์ตกแต่งภายใน
  • การใช้ในสวน
    • บางครั้งบัวดอยถูกนำมาใช้ในการประดับสวนหรือลานจอดรถเพื่อเพิ่มความเขียวสดและความสวยงาม

บัวดอย นิยมในการปลูกในบ้าน

การปลูกและดูแลบัวดอยไม่เพียงแค่สร้างความสวยงามให้กับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่ แต่ยังเป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้และการเพิ่มคุณค่าให้กับทัศนคติในการดูแลสิ่งแวดล้อมภายในบ้าน

  • การเลี้ยงในบ้าน
    • บัวดอยเป็นที่นิยมในการปลูก ต้นไม้ในบ้าน เนื่องจากสามารถปรับตัวได้ทั้งในระดับแสงและอุณหภูมิ ทำให้เป็นพืชที่เลี้ยงได้ดีในสภาพอากาศภายในบ้าน
  • การให้น้ำ
    • การรดน้ำควรเป็นอย่างมีระบบเพื่อป้องกันการขาดน้ำหรือน้ำท่วม
  • การใช้เป็นสัญลักษณ์
    • บัวดอยเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์ในวัฒนธรรมไทย มักนำมาใช้ในพิธีกรรมและงานวันสำคัญ
  • การเรียนรู้เพิ่มเติม
    • การเรียนรู้เกี่ยวกับลักษณะต่าง ๆ ของบัวดอยและวิธีการดูแลรักษาจะช่วยให้คุณมีประสบการณ์การเพาะปลูกที่ประสบความสำเร็จ
  • การสนใจจากสวนพฤกษศาสตร์
    • บัวดอยมีความนิยมในวงการสวนพฤกษศาสตร์เนื่องจากมีการศึกษาและพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
  • การเป็นอาชีพ
    • ในบางที่การปลูกและขายบัวดอยอาจเป็นอาชีพที่น่าสนใจ เนื่องจากมีความต้องการในตลาด
  • การส่งเสริมสุขภาพ
    • การมีพืชในบ้าน เช่น บัวดอย ยังช่วยส่งเสริมสุขภาพจิตและลดความเครียด
Categories
ต้นไม้หน้าบ้าน

ปาล์มหมาก ต้นไม้สุดวินเทจ จะไว้ตรงไหนของบ้านก็ปัง

ปาล์มหมาก

ปาล์มหมาก ก่อนที่เราจะไปหาซื้อมาปลูก ขออนุญาตพาเพื่อน ๆ แวะทำความรู้จักกันสักนิด เพื่อให้สามารถปลูกได้อย่างเข้าใจ โดยเป็นต้นไม้ประเภทฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว ต้นไม้ชนิดนี้เป็นยืนต้นจำพวกปาล์ม เป็นต้นเดี่ยวไม่แตกกิ่งก้าน ลำต้นจะมีรูปร่างทรงกระบอก และตั้งตรง ส่วนของใบจะเป็นใบประกอบแบบขนนก ใบย่อยจะมีรูปร่างหอกปลายแหลม ทำให้โดยภาพรวมแล้วมีความสวยงามมาก ๆ และไม่ใช่แค่สวย แต่ยังมีประโยชน์ในฐานะไม้ฟอกอากาศอีกด้วย

ปาล์มหมาก

ปาล์มหมาก ดูแลไม่ยาก

ปาล์มหมากต้องยอมรับว่าต้องการน้ำอยู่พอสมควร ทำให้ดินต้องมีความชื้นบ้าง เพื่อให้ ต้นหมาก สามารถเติบโตได้เป็นอย่างดี สำหรับการทำความสะอาด ก็ควรจะเช็ดใบด้วย เพราะบางครั้งฝุ่นในบ้านและสารเคมี สิ่งตกค้างอื่น ๆ มาถูกใบจนขัดขวางประสิทธิภาพในการฟอกอากาศได้ หากเราปลูกในร่มควรจะนำออกมาไว้ข้างนอกเพื่อรับแสงแดดบ้าง อย่างต่ำ 3 เดือน แต่หากไว้กลางแจ้งอยู่แล้วก็หมดห่วงได้เลย

ปาล์มหมากไม้ยอดฮิตที่มีราคาแอบสูง

ปาล์มหมากเป็นไม้ประดับที่มีความสวยงามมาก ๆ และยังเป็นไม้ฟอกอากาศที่ดีเป็นอันดับต้น ๆ ทำให้ต้น ปาล์มหมาก ราคา มีได้ตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไปต่อหนึ่งกระถาง

ปาล์มหมาก

ปาล์มหมากแบบไหนควรปลูกไว้ตกแต่งสวน

        ปาล์มหมากมีได้หลายขนาด และหลายพันธุ์ ทั้งนี้บางพันธุ์จะมีความสูง หากเพื่อน ๆ อยากได้ต้นสูงใหญ่ ข้อแนะนำเป็น ปาล์มหมากนวล เพราะต้นที่โตจะสูงเอามาก ๆ ประดับสวนหลังบ้านคือให้ร่มเงา บรรยากาศดี ร่มรื่น

ต้นปาล์มประดับ หน้าบ้าน สวน หรือร้านอาหารก็เอาอยู่

        ปาล์มหมากคือไม้สุดนิยมที่เราจะพบเห็นได้บ่อยมากในคาเฟ่ ร้านกาแฟ หรือร้านอาหารที่มักมีการนำมาปลูกไว้ ซึ่งก็ทำให้ร้านดูสวยขึ้นทันตา ดูทันสมัยและดูมีอะไรที่น่าสนใจสุด ๆ ทั้งนี้เราสามารถนำต้นหมาก ประดับสวนได้ด้วย

สำหรับใครที่ไม่มีเวลาดูต้นไม้มากพอ ต้นปาล์มหมาก ปลอม ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือก

            เพราะบางทีเราอาจจะละเลยการดูแลเรื่องความสะอาด ไม่มีเวลามากพอในการดูแลต้นไม้ เพราะวันนึงก็มีภารกิจในชีวิตประจำวันมากมายในแต่ละวัน แต่ก็ยังคงอยากให้บรรยากาศภายในบ้านดูสวยงาม การเลือกซื้อต้นไม้ปลอมก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะทำความสะอาดและดูแลไม่ยาก โดยเราสามารถหาซื้อได้แอปพลิเคชั่นขายของชั้นนำอย่าง ในลาซาด้า ชอปปี้ หรือจะเข้าไปซื้อที่อินเด็กซ์ลิบวิ่งมอล์ก็แล้วแต่สะดวกเราเลย ทั้งนี้ราคาก็แอบสูงมาเช่นกัน เพราะมีราคาถึงหลักพันกันเลย หากเปรียบเทียบกับต้นไม้จริงแล้วก็เท่ากับละดับพันธุ์หมากดี ๆ เลยล่ะ

สนับสนุนโดย https://pgslot-89.com/ pg slot ค่ายเกมส์สล็อตออนไลน์สุดฮิต เล่นง่าย จ่ายจริง https://pgslot-89.com/

Categories
หน้าแรก

จั๋งญี่ปุ่น ไม้ฟอกอากาศดูแลง่าย สบายคนปลูก

จั๋งญี่ปุ่น

จั๋งญี่ปุ่น หรือในตระกูลต้นจั๋ง ถือว่าเป็นอีกหนึ่งไม้ฟอกอากาศยอดฮิตที่อยู่ในตระกูลเดียวกับต้นปาล์มเลยล่ะ ตัวจั๋งจะเป็นต้นไม้ที่จะขึ้นเป็นกอ มีการเจริญเติบโตที่ช้าพอตัวเลย โดยจะสูงได้ประมาณ 3 – 4 เมตรเลยทีเดียวหากเราไม่ได้ทำการตัดแต่ง ปัจจุบันนำมาปลูกเพื่อประดับทั้งภายในและภายนอกอาคารเยอะมาก ๆ

จั๋งญี่ปุ่น

จั๋งญี่ปุ่น วิธีการปลูกและการดูแลต้องเตรียมยังไงบ้าง

จั๋งญี่ปุ่นเป็นไม้ที่เอาอะไรก็ได้ง่าย ๆ จะไว้นอกบ้านหรือในล้านก็ได้ แน่นอนว่าเราก็ต้องใส่ใจอยู่พอสมควรนะ สำหรับวิธีการปลูกจั๋งญี่ปุ่น ขยายพันธุ์ทำยังไงนั้น โดยเราสามารถทำได้อยู่ 2 วิธี คือ การเพาะเมล็ด และอันสุดท้ายคือการแยกหน่อ แน่นอนว่าส่วนใหญ่แล้ว จะใช้วิธีแยกหน่อมากกว่า เพราะการเพาะเมล็ดใช้เวลานานมากกว่านั่นเอง  วิธีการดูแลเบื้องต้นก็มีดังนี้

1.แสง เพราะจั๋งเป็นไม้นิสัยง่าย ๆ อยู่กลางแจ้ง ประดับในอาคารบ้านที่ร่ม ๆ ก็ได้ เอาที่เราสะดวกเลย

2.น้ำ ขอแค่พอให้ดินชุ่มชื้นก็เพียงพอ แนะนำให้รดน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง อย่าให้ขาดน้ำ แล้วก็อย่าให้น้ำขังเพราะจะมีกลิ่นอับได้ง่าย ละอาจจะทำให้ต้นเสียได้เลย

3.ดินร่วนหรือดินที่ปลูกต้นไม้ที่อุ้มน้ำได้ทั่วไปเลย แนะนำเป็นพิเศษคือ ควรหาผสมวัสดุปลูก ไม่ว่าจะเป็นแกลบหรือกากมะพร้าวมาด้วย เพื่อช่วยเรื่องการเก็บอุ้มน้ำและความชื้นนั่นเอง

4.สำหรับปุ๋ย สามารถใช้ได้ทั้งปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักได้เลย แนะนำให้ใส่ปีละ 2 ครั้งก็เพียงพอแล้ว  

 จั๋งญี่ปุ่นราคาเริ่มต้นที่เท่าไหร่แล้วบ้าง

จั๋งญี่ปุ่นด้วยความที่เป็นไม้ประดับที่มีความสวยงามเอามาก ๆ นอกจากนี้ยังช่วยเรื่องของการฟอกอากาศ และเพิ่มความชุ่มชื้นโดยรอบ ทำให้ ต้นจั๋งญี่ปุ่นราคามีได้ตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป แล้วแต่ความสูง ขนาด ประมาณ และคุณภาพของต้น แน่นอนว่าแอบมีราคาสูงพอตัวเลยล่ะ 

จั๋งญี่ปุ่น

จั๋งญี่ปุ่นเรื่องของประโยชน์จะช่วยอะไรบ้างนอกจากความสวย  

        จั๋งญี่ปุ่นปกติแล้วจะเลี้ยงไว้ตกแต่งสวนเพื่อความสวยงาม ทั้งนี้จั๋งญี่ปุ่น ประโยชน์ ก็มีให้ใช้สอยอยู่ในเรืองของการทำอาหารด้วยนะ เพราะบริเวณภาคเหนือของเรามีการนำยอดอ่อนมาต้มเพื่อประกอบอาหารด้วยนะ ทั้งช่วยเรื่องของการถ่ายเท ช่วยฟอกอากาศ เพิ่มความชุ่มชื้น และมีความสวยงามอยู่ในตัว ทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากในไทยนั่นเอง

ต้นจั๋ง ชอบแดด ไหม เห็นบอกชอบความชื้นนี่นา

        จั๋งญี่ปุ่น \อย่างที่บอกว่าจั๋งเป็นไม้ที่ไม่เรื่องมากเลยเรื่องแสงแดด แต่น้องต้องการน้ำเป็นสำคัญมาก ดังนั้นหากถามว่าแล้วจั๋งญี่ปุ่น ชอบแดดไหม ขึ้นชื่อว่าจั๋งแล้ว อะไรก็ได้ที่เราสะดวกนั่นเอง จะไว้กลางแจ้ง หรือที่ร่มก็ได้ ขอแค่เราใส่ใจเรื่องน้ำก็เพียงพอแล้ว หากไว้กลางแจ้งก็อาจจะต้องให้ความสำคัญเรื่องน้ำมากขึ้น เพื่อไม่ให้ดินแห้ง

แล้วจั๋งญี่ปุ่น ทรงพุ่ม เป็นแบบไหน หาซื้อได้ที่ไหน

        จริง ๆ แล้วไม่ต้องหาที่ไหนเลย เพราะสายพันธุ์ไทยอย่าง R.Subtilis ก็ดูเป็นทรงพุ่มที่สุดแล้ว ทั้งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นจั๋งแล้ว เราก็สามารถตัดแต่งได้ เพราะอย่าลืมว่าน้องสามารถโตขึ้นได้ตลอด อยากได้ทรงไหน สูงประมาณไหนเราก็สามารถจัดการเองได้เลย

สนับสนุนโดย https://slot-allbet.com/ แหล่งรวม pg slot หรือ พีจีสล็อต https://slot-allbet.com/pg-slot-or-pg-slot/

Categories
ไม้ประดับ

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง ชื่อดูน่ากลัว แต่น้องหน้าตาน่ารักนะบอกเลย

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง อีกหนึ่งไม้ยอดฮิตที่เราจะเห็นได้ตามคาเฟ่ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือบ้างบ้านก็ปลูกไว้เต็มเลย สำหรับตีนตุ๊กแกฝรั่งนั้น เดิมทีเป็นไม้เลื้อยที่เกาะอาศัยตามต้นไม้ใหญ่ ๆ แต่เราสามารถนำมาปลูกติดกับกำแพงได้ เพราะจะช่วยให้กำแพงดูมีสีสัน โดยเป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกกำแพง รอบบ้าน หรือจะมาปลูกในอาคารประดับห้องสวย ๆ ก็ยังได้ ด้วยการปลูกในกระถางแขวน โดยให้เถาและใบห้อยย้อยลงมา ซึ่งดูแล้วน่ารักและสวยงามในเวลาเดียวกันเอามาก ๆ เลยล่ะ

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง นิยมในไทยมากขนาดไหนกันนะ

ตีนตุ๊กแกฝรั่งหลาย ๆ คนไม่ค่อยรู้จัก เพราะชื่อน้องดูเอาน่ากลัวยังไงก็ไม่รู้ (สำหรับคนกลัวตุ๊กแกเฉพาะเลย) แน่นอนว่าชื่อนั้นก็ได้มาจากความสามารถในการปีนไปเลื้อยไปตามกำแพงผนังเพดานนั่นเอง โดยมีชื่ออีกอย่างว่าบอสตันไอวี่ โดยเจ้าบอสตันไอวี่ ปลูกในไทย ก็มีมานานมากแล้ว แต่ถ้าถามถึงความนิยม ก็เป็นที่นิยมอยู่ในระดับนึงเลย พอหาซื้อง่าย ราคาถูกมากอีกด้วย  

ตีนตุ๊กแกฝรั่งราคาถูกที่ว่า คือถูกจริง ๆ นะไม่ได้โม้

ตีนตุ๊กแกฝรั่งเป็นไม้เลื้อยที่มีความสวยงามเอามาก ๆ สำหรับคนที่ชอบต้นไม้แบบแขวน เพราะหาซื้อง่าย ราคาไม่แพง ดูแลก็ไม่ยาก ทำให้ บอสตันไอวี่ ราคามีได้ตั้งแต่ 4-5 บาทเอง ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความยาว ความสวยงามอีกด้วย ราคาก็จะสูงขึ้นไปอีก

ตีนตุ๊กแกฝรั่ง

ตีนตุ๊กแกฝรั่งเรื่องของการปลูกไม่ยากเลยแหละ  

        ตีนตุ๊กแกฝรั่งจริง ๆ บางบ้านแถมไม่ต้องดูแลอะไรมากมายเลื้อย เพราะหากน้องต้องการแสงก็เลื้อยหาเองได้เลย แต่ก็ต้องดูแลเรื่องน้ำด้วย แน่นอนว่าถ้ามีการปลูก บอสตันไอวี่ แบบเป็นกระถางแล้วเนี่ยก็ต้องดูเรื่องของแสง และน้ำเป็นสำคัญมาก เพราะตีนตุ๊กแกชอบน้ำและชอบแสงแดดเอามาก ๆ จึงขอแนะนำสำหรับคนที่ปลูกแบบกระถางแขวน ให้เอาไว้ริมระเบียง หน้าต่าง หน้าบ้าน จะช่วยเรื่องแสงได้ดี ทั้งนี้ เรื่องของน้ำก็อย่าลืมพรมที่ใบไม้ด้วยนะ เพื่อความชุ่มฉ่ำอีกด้วย

บอสตันไอวี่ ปลูกหน้าระเบียงคือดีมาก

        ตีนตุ๊กแกฝรั่ง หรือเจ้าต้นไอวี่ เนี่ย เพราะดูแลไม่ยาก ทำให้เราสามารถเลือกปลูกได้เกือบทุกส่วนของบ้าน (ยกเว้นในห้องน้ำที่เพราะไม่ค่อยมีแสง) แล้วคือความสวยของเจ้าไอวี่ก็มาจากน้องที่เลื้อยลงมานั่นเอง จะให้โชว์ความสวยงามของน้องให้มากที่สุดเนี่ย เห็นจะต้องปลูกไว้หน้าบ้านกับริมหน้าต่าง ริมระเบียงดีที่สุดแล้ว ใครผ่านมาเห็นก็ต้องสะดุดตากับความปังนี้อย่างแน่นอน

แล้วคนส่วนมากนิยม ขาย บอสตันไอวี่ กันที่ไหนบ้าง

            หาซื้อได้ในร้านขายต้นไม้ทั่วไปเลย หากจะสั่งออนไลน์ก็มีหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้ด้วยนะ ไม่ว่าจะเป็นในช็อปปี้ ลาซาด้าก็มีหมดเลยทั้งของจริงของปลอม หรือจะหาซื้อในเพจเฟสบุ้คก็ได้เช่นกัน หาง่าย ราคาไม่แพง สำหรับคนเริ่มปลูกต้นไม้ก็ลองหาซื้อดูได้เลย

สนับสนุนโดย https://slot-allbet.com/ แหล่งรวม http://pg slot หรือ พีจีสล็อต ***ใส่ลิงค์ https://slot-allbet.com/pg-slot-or-pg-slot/

Categories
ต้นไม้ด่าง

เตยด่าง ไม้ประดับที่มีสีด่างที่สวยไม่เหมือนเคยทั่วไป

เตยด่าง

เตยด่าง หนึ่งในไม้ประดับที่มักจะถูกนำมาปลูกปะดับในสวนที่มีขนาดใหญ่ หรือการตกแต่งสวนใหญ่ ๆ เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไม้ประดับชนิดนี้ดูแลไม่ยาก เหมาะกับการนำไปปลูกประดับสวนและบ้านเป็นอย่างยิ่ง

เตยด่าง

เตยด่าง ดูแลง่าย เหมาะกับการนำไปปลูกประดับทั้งในและนอกตัวบ้าน

เตยด่างหรือ เตยทอง เป็นไม้พุ่มล้มลุกเช่นเดียวกับ เตยหอม ดังนั้นจึงสามารถนำใบของต้นเตยด่างไปทำประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยเตยด่าง ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pandanus sanderi Sander ex M.T. Mast ที่ได้รับความนิยมสูงตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม้ชนิดนี้มีความทนทานต่อสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ดี และช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมหนักจึงทำให้ไม้ชนิดนี้ได้รับความนิยมเรื่อยมา

เตยด่าง

เตยด่างวิธีดูแล
สำหรับวิธีดูแลเตยต่างนั้นไม่อยากอย่างที่คิด เนื่องจากพืชชนิดนี้ทนแดดทนฝนได้ดี ที่สำคัญยังเป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้ใช้ดินร่วน ผสมดินเหนียวในการปลูก และให้รดน้ำวันละ 1 – 2 ครั้ง โดยต้องรดให้ชุ่มแต่ไม่ไปจนถึงแฉะจนเกินไป ที่สำคัญเนื่องจากไม้ชนิดนี้ทนความร้อนได้ดี แต่หากไม้ชนิดนี้ได้รับแสงมากเกินไปจะทำให้ใบที่เป็นด่างจะกลายเป็นสีเขียวได้ ดังนั้นจึงควรวางกระถาง หรือปลูกในตำแหน่งที่ต้นไม้ได้รับแสงแดดรำไรตลอดทั้งวันเท่านั้นก็พอแล้ว และสำหรับปุ๋ย ยังสามารถใส่ปุ๋ยได้ทุกชนิด โดยแนะนำให้ใส่ 1 – 2 ครั้ง / เดือน

เตยด่าง

เตยด่างนอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังหาซื้อง่ายอีกด้วย

เตยด่างนอกจากจะเป็นไม้ประดับที่สามารถปลูกและดูแลได้ค่อนข้างง่ายแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นยังมีราคาที่ถูก และหาซื้อได้ไม่ยากอีกด้วย โดยเตยด่าง ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 35 – 300 บาทเท่านั้น นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากได้ไม้ประดับที่สามารถปลูกเพื่อทำเงินได้ง่าย ลงทุนต่ำ เตยด่างก็นับว่าเป็นไม้ประดับที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเตยด่าง จัดสวน ได้แล้ว ใบของเตยด่างสามารถนำไปประดับช่อดอกไม้ หรือนำไปพับเป็นช่อดอกไม้เตยด่างได้อีกด้วย นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากหาซื้อเตยด่างก็หาซื้อไม่ยากอย่างที่คิด ทั้งทางออนไลน์ และหน้าร้านตามตลาดต้นไม้ หรือร้านขายไม้ประดับต่าง ๆ ก็มักจะมีไม้ประดับชนิดนี้วางขายเช่นกัน          

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเตยด่าง ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ และก่อนที่จะจากกันไปในวันนี้ เราอยากแนะนำในเรื่องของความแตกต่างกันระหว่างเตยด่าง กับ เศรษฐีเรือนใน ซึ่งเป็นไม้ประดับที่มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่สำหรับวิธีสังเกตให้เห็นความแตกต่างกันระหว่างไม้ 2 ชนิดนี้คือเตยด่างจะมีด่างสีเหลืองทองอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีใบที่หนา และใบใหม่ที่แตกออกมาบริเวณกลางกอจะมีลักษณะที่แหลม ตั้งตรง และไม่แบะออก แต่สำหรับเศรษฐีเรือนในจะมีด่างที่เป็นสีขาว กลางกอมีความแบะออกอย่างเห็นได้ชัด และใบจะไม่หนาเท่าที่ควรนั่นเอง

Categories
ไม้ประดับ

สายป่านดวงใจ ไม้ประดับที่ใครได้เห็นก็ต้องดีต่อใจ

สายป่านดวงใจ

สายป่านดวงใจ หนึ่งในไม้ประดับที่มีลักษณะเป็นไม้เลื้อยขนาดเล็ก ที่เหมาะกับการนำมาห้อยประดับบ้าน และสวนเป็นอย่างยิ่ง โดยลักษณะของไม้ประดับชนิดนี้นอกจากจะมีเคลือยาวระย้าแล้ว ลักษณะของใบยังมีรูปร่างที่คล้ายคลึงกับหัวใจ จึงทำให้ไม้ชนิดนี้ได้ชื่อว่า “สายป่านดวงใจ” นั่นเอง

สายป่านดวงใจ ดูแลง่าย แถมยังเหมาะกับทั้งปลูกประดับบ้าน และส่งต่อเป็นของขวัญที่สุด

สายป่านดวงใจนับว่าเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แต่ก็อาจจะมีหลายคนที่พอจะเคยได้เห็นไม้ชนิดนี้ผ่านตามาบ้าง แต่อาจจะยังไม่ทราบว่าไม้ประดับชนิดนี้มีชื่อว่าอะไร ดังนั้นวันนี้เราจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้กับ ต้นสายป่านหัวใจ และสายป่านดวงใจมีกี่สายพันธุ์

โดยสายป่านดวงใจ ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Ceropegia woodii Schltr ซึ่งจะมีสายพันธุ์ในพืชสกุลนี้อยู่หลายสายพันธุ์ด้วยกัน แต่ที่เราน่าจะรู้จักกันอย่างแพร่หลายเช่น chain of hearts, collar of hearts, string of hearts, rosary vine, hearts-on-a-string และ sweetheart vine เป็นต้น โดยเราสามารถเรียกไม้ประดับที่มีชื่อสามัญต่าง ๆ เหล่านี้ว่า “สายป่านหัวใจ” ได้ทั้งหมด

สายป่านดวงใจ

วิธีดูแลต้นสายป่านดวงใจ

สายป่านดวงใจดูแล ไม่ยากอย่างที่คิด โดยไม้ชนิดนี้นับว่าเป็นไม่ที่โตค่อนข้างช้า แต่ข้อดีของไม้โตช้าคือเรารู้สึกเหมือนได้สตาฟต้นไม้ของเราให้ได้ดูไปนาน ๆ และวิธีดูแลง่าย ๆ มีดังนี้

  • น้ำ ปริมาณของน้ำที่ต้นไม้สายพันธุ์นี้ต้องการจะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งเราแนะนำให้รดวันละ 1 ครั้ง ในช่วงเช้า แต่หากเป็นต้นที่ปลูกไว้นอกบ้าน เราแนะนำให้รดในช่วงเช้า – เย็น (2 ครั้ง / วัน)
  • ดิน วัสดุที่ใช้ในการปลูกเราแนะนำให้ใช้เป็นดินร่วน ผสมกับกาบมะพร้าว หรือเฟิร์น เนื่องจากวัสดุชนิดนี้จะมีคุณสมบัติที่สามารถระบายน้ำได้ดี แต่ในขณะเดียวกันยังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดี
  • แสงแดด ปริมาณแสงแดดที่เหมาะกับไม้ชนิดนี้ควรเป็นแดดช่วงครึ่งเช้า ดังนั้นหากใครที่ปลูกไม้ชนิดนี้ไว้นอกบ้าน เราแนะนำให้ปลูกในที่ที่มีร่มบังแสงให้กับต้นไม้
  • ปุ๋ย ปุ๋ยที่ให้นั้นสามารถใช้เป็นปุ๋ยชนิดใดก็ได้ โดยให้ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากเป็นปุ๋ยชนิดละลายช้า ก็จะขึ้นอยู่ตามระยะเวลาในการละลายของปุ๋ย ซึ่งอาจจะอยู่ที่ 3 – 6 เดือน นอกจากนี้แล้ว เมื่อเรานำการใส่ปุ๋ยเรียบร้อยแล้ว แนะนำให้นำหินภูเขาไฟ เบอร์ 00 ปิดหน้าดินเพื่อกักเก็บความชื้น

ราคาและ 3 ร้านขายต้นสายป่านดวงใจบน Instagram ที่เราอยากแนะนำ

สำหรับสายป่านดวงใจยังนับว่าเป็นต้นไม้ประดับที่ราคายังไม่สูงมากนัก ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ และขนาดของแต่ละต้น โดยสายป่านดวงใจ ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 20 – 2,500 บาท ซึ่งเรามี 3 ร้านขายต้นสายป่านดวงใจบน Instagram มาแนะนำ เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่อยากได้ต้นสายป่านดวงใจสามารถใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อไม้ประดับชนิดนี้

3 ร้านขายต้นสายป่านดวงใจบน Instagram

สายป่านดวงใจ

Cactus.My Home ร้านขายแคคตัสปลูกเอง และไม้ประดับหลากหลายชนิดรวมไปถึง สายป่านดวงใจ และ สายป่านดวงใจด่างชมพู ราคา ที่มีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น

สายป่านดวงใจ

Meena Graden ร้านขายไม้ประดับสวย ๆ ที่มีไม้ประดับให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ ที่พิเศษสุด ๆ คือ ต้นสายป่านดวงใจ ที่ทางร้านการันตีว่าเป็นสายพันธุ์นำเข้าจากประเทศฮอนแลนด์เลยทีเดียว

สายป่านดวงใจ
  • Sea.sawseenplants ร้านขายไม้ประดับ ที่มีไม้ประดับให้เลือกหลายหลายชนิด รวมไปถึงสายป่านดวงใจ ที่มีให้เลือกเป็นจำนวนมาก และมีราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยเท่านั้น

            สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากปลูกสายป่านดวงใจแต่อยากทราบว่า เราจะสามารถใช้ดิน หรือวัสดุชนิดอื่นในการปลูกได้หรือไม่ คำตอบคือได้ เพราะนอกจากคุณจะสามารถใช้ดินร่วนผสมกาบมะพร้าวในการปลูกได้แล้ว คุณยังสามารถใช้ ดินร่วน ผสมกับกาบมะพร้าวสับ แกลบเผา หินภูเขาไฟ00 และก้ามปูหมักมาผสมให้เข้ากันก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่หากใครที่ไม่สามารถหาซื้อวัสดุต่าง ๆ ได้ทั้งหมด ก็สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้เช่นกัน

Categories
ไม้ประดับ

พิทูเนีย ไม้ดอกสีสันสดใส เหมาะกับการนำไปประดับตกแต่งบ้าน

พิทูเนีย

พิทูเนีย คือไม้ดอกไม้ประดับขนาดเล็ก ที่นิยมปลูกใส่กระถางและนำไปวาง หรือห้อยประดับส่วนต่าง ๆ ของสวนและตัวบ้าน โดยไม้ประดับชนิดนี้มีมากถึง 20 สายพันธุ์ ซึ่งมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับไม้ประดับที่เป็นที่นิยมหลาย ๆ ชนิดในไทย

พิทูเนีย

พิทูเนีย ดูแลไม่ยาก ปลูกง่ายเพียงใช้เมล็ด

            พิทูเนียเป็นต้นไม้ประดับที่นอกจากจะดูแลง่ายแล้ว ยังมีขั้นตอนในการเพาะปลูกที่ง่ายอีกด้วย และวันนี้เว็บไซต์ของเราได้นำข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนในการปลูก และขั้นตอนในการดูแลดอกพิทูเนีย มาฝากทุกคนแล้ว

วิธีปลูกพิทูเนีย

            การปลูกพิทูเนียนั้นสามารถทำได้จากหลายวิธี โดยเราแนะนำการปลูกด้วยการ เพาะเมล็ดพิทูเนีย เนื่องจากจะทำให้ได้ต้นพิทูเนียจำนวนมาก และยังเป็นกิจกรรมที่เรายังจะได้ทำด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนเริ่มต้น โดยขั้นตอนในการเพาะปลูกพิทูเนียมีดังนี้

  1. นำดินซึ่งสามารถใช้เป็น พีทมอส หรือดินผสมขุยมะพร้าวใส่ในวัสดุที่ต้องการใช้ในการเพาะเมล็ด (แนะนำให้ใช้ถาดเพาะ)
  2. จากนั้นรดน้ำให้ดินที่อยู่ในถาดเพาะให้มีความชุ่มชื้น แล้วนำไม้จิ้มฟังหรือไม้เล็ก ๆ ขุดรูขนาดที่พอให้สามารถหยอดเมล็ดพิทูเนียลงไปลูกได้ และเมื่อขุดรูเรียบร้อยแล้วก็สามารถนำเมล็ดหยอดลงไปในรูได้เลย
  3. แนะนำให้หยอดรูละ 2 – 3 เมล็ด จากนั้นกลบหลุมเรียบร้อย และนำถาดเพาะไปวางไว้ในที่ที่มีแสงรำไรระหว่างนั้นให้รดน้ำต้นกล้าวันละ 2 ครั้ง ประมาณ 3 – 4 สัปดาห์ ก็สามารถย้ายต้นกล้าไปปลูกในกระถางได้เลย
พิทูเนีย

วิธีดูแลพิทูเนีย

ดิน การดูแลพิทูเนีย หลังจากที่นำต้นกล้ามาปลูกในกระถางต่อก็มีขั้นตอนที่ไม่ยากนัก โดยดินที่ใช้ในการปลูกสามารถใช้เป็นดินชนิดเดียวกับที่ใช้เพราะเมล็ด และแนะนำให้นำกาบมะพร้าวสับปิดบริเวณหน้าดินไว้

น้ำ การรดน้ำ แนะนำให้รดน้ำวันละ 2 ครั้ง โดยแบ่งรดเป็นช่วงเช้า – เย็น

แสงแดด ไม้ชนิดนี้เป็นไม้ที่ไม่ชอบแสงแดดจัดสักเท่าไร ซึ่งเราแนะนำให้วางกระถางในตำแหน่งที่มีแสงแดดร่ำไรจะเหมาะสมที่สุด

ปุ๋ย การให้ปุ๋ยสามารถให้ได้ทุกชนิด แต่เราแนะนำให้ใช้เป็นปุ๋ยชนิดละลายช้าเนื่องจากหาซื้อได้ง่ายตามร้านขายไม้ประดับทั่วไป และที่สำคัญยังอยู่ได้นานประมาณ 3 – 6 เดือนเลยทีเดียว

พิทูเนีย

พิทูเนียหาซื้อง่าย แถมยังราคาถูก

            สำหรับใครที่อยากได้พิทูเนีย สวย ๆ ต้องบอกเลยว่าไม้ประดับชนิดนี้นับว่าเป็นหนึ่งในไม้ดอก ไม้ประดับที่หาซื้อได้ง่ายเป็นอันดับต้น ๆ โดยหาซื้อได้จากทั้งทางออนไลน์ และตามร้าน และตลาดต้นไม้ โดย พิทูเนียราคา จะอยู่ที่ประมาณ 70 – 500 บาท ต่อกระถาง และหากใครที่อยากได้เมล็ดไปเพาะปลูกด้วยตัวเอง แต่ละสายพันธุ์ก็จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป เช่น พิทูเนียเวฟ 100 เมล็ด ราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 500 – 600 บาท

            อย่างที่เราได้กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า พิทูเนีย เป็นไม้ประดับที่มีหลากหลายสายพันธุ์ และแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป และที่สำคัญไปกว่านั้นแต่ละสายพันธุ์ยังจะมีราคาที่แตกต่างกันอีกด้วย ดังนั้นหากใครที่อยากหาไม้ประดับที่ปลูกง่าย และขายได้กำไรดี พิทูเนียก็นับว่าเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

Categories
ต้นไม้หน้าบ้าน

ชมพูพันธุ์ทิพย์ ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่มีดอกสีชมพูสวยบานสะพรั่งเต็มต้น

ชมพูพันธุ์ทิพย์ หนึ่งในไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่ได้รับความนิยมสูงจากยุคสู่ยุค เนื่องจากไม้ชนิดนี้นอกจากจะให้ร่มเงาแก้สวน หรือตัวบ้านได้แล้ว เมื่อถึงฤดูออกดอก ไม้ชนิดนี้จะมีดอกสีชมพูอ่อน ๆ ทั้งต้น ซึ่งนับว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของไม้สายพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้

ชมพูพันธุ์ทิพย์ ดูแลไม่ยากอย่างที่คิด ที่สำคัญยังสามารถปลูกในบ้านได้ด้วย

            ชมพูพันธุ์ทิพย์แม้ว่าจะเป็นต้นไม้ใหญ่ แต่ไม้ชนิดนี้ก็นับว่าเป็นไม้อีกชนิดหนึ่งที่นิยมปลูกประดับไว้ในบ้าน โดยชมพูพันธุ์ทิพย์ ปลูกในบ้าน นั้น จำเป็นต้องปลูกให้ห่างจากตัวบ้านประมาณ 4 เมตรขึ้นไป ดังนั้นบ้านที่ต้องการปลูกไม้ชนิดนี้จึงควรเป็นบ้านที่มีพื้นที่พอสมควร แต่อีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณสามารถนำไม้ชนิดนี้ไปปลูกในบ้านที่มีพื้นที่จำกัดได้คือการเลือกซื้อชมพูพันธุ์ทิพย์ ขุดล้อม ที่มีขนาดโตเต็มที่แล้วมาปลูก แต่ข้อเสียของไม้แบบนี้คือจะไม่มีรากแก้ว ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่ต้องออกแบบโครงเพื่อใช้ยึดต้นไม้ของเราด้วย

วิธีดูแลต้นชมพูพันธุ์ทิพย์

            ชมพูพันธุ์ทิพย์การดูแล นั้นไม่ยากอย่างที่คิด เนื่องจากต้นไม้ชนิดนี้ค่อนข้างจะมีความทนทานต่อสภาพอากาศ โดยเฉพาะอากาศที่ร้อนจัด และทนต่อสภาพน้ำท่วมได้ดี ดังนั้นใครที่อยากปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ประดับบ้านและสวนจึงนำว่าเป็นไอเดียที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง และวิธีดูแลง่าย ๆ มีดังนี้

  • ดิน การปลูกไม้ชนิดนี้สามารถปลูกกับดินชนิดใดก็ได้ เนื่องจากเป็นไม้ที่เราต้องปลูกลงดินโดยตรง แต่หากจะให้ดีควรเป็นดินร่วนที่มีคุณสมบัติระบายโปร่ง ระบายน้ำได้ดี
  • น้ำ ในช่วงที่ต้นไม้ยังไม่โตเต็มที่หรือยังเป็นต้นกล้าอยู่ แนะนำให้รดน้ำในช่วงเช้าและเย็น แต่หากเป็นต้นที่สูง 3 – 4 เมตรแล้วก็สามารถลดปริมาณน้ำให้เหลือเพียงวันละครั้ง หรือ 3 – 4 วันครั้ง แต่หากเป็นช่วงฤดูฝน ที่มีฝนตกถี่ช่วงนั้นก็ให้งดการรดน้ำออกไปก่อน
  • แสงแดด ตำแหน่งที่เหมาะกับการปลูกไม้ชนิดนี้ควรเป็นตำแหน่งที่มีแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน เนื่องจากไม้ชนิดนี้ค่อนข้างที่จะชอบแสงแดดเป็นอย่างยิ่ง
  • ปุ๋ย การให้ปุ๋ยไม้ชนิดนี้แนะนำให้ประมาณ 2 – 3 ครั้ง / เดือน โดยสามารถให้เป็นปุ๋ยชนิดใดก็ได้ แต่หากต้นอยู่ในวัยที่โตเต็มที่แล้ว สามารถใช้ใบของมันที่ร่วงหล่นจากต้นไปกลบที่โคนต้นเพื่อใช้เป็นปุ๋ยตามธรรมชาติก็ได้เช่นกัน

ฤดูออกดอกของต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ พร้อมกับราคาตามท้องตลาด

            สำหรับใครที่อยากได้ชมพูพันธุ์ทิพย์ มาปลูกประดับที่บ้าน ชมพูพันธุ์ทิพย์ ราคา จะเริ่มต้นที่ประมาณ 20 – 7,000 บาท สำหรับต้นกล้า และต้นที่มีความสูงตั้งแต่ 60 – 400 เซนติเมตร แต่หากเป็นราคาไม้ล้อมที่มีต้นขนาดใหญ่ หรือโตเต็มที่ก็จะทำให้มีราคาสูงตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว

          นอกจากนี้สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่สงสัยว่า ชมพูพันธุ์ทิพย์กี่ปีออกดอก และจะออกดอกในช่วงฤดูใด เราได้หาคำตอบมาให้กับทุกคนแล้ว โดยต้นไม้ชนิดนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการปลูกประมาณ 4 – 5 ปี จึงจะเริ่มออกดอก แต่หากเป็นต้นที่ได้รับแสง น้ำ และแร่ธาตุอย่างเพียงพอก็อาจจะทำให้ออกดอกได้เร็วมากยิ่งขึ้น และสำหรับฤดูออกดอกของไม้ชนิดนี้คือช่วง กุมภาพันธ์ – เมษายน ดังนั้นเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากถ่ายภาพสวย ๆ กับไม้ชนิดนี้ในช่วง 3 เดือนนี้จึงเป็นระยะเวลาที่ล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง

(บทสรุป)

            ชมพูพันธุ์ทิพย์นอกจากจะเป็นไม้ที่มีดอกที่สวยงามแล้ว ความพิเศษของไม้ชนิดนี้อีกอย่างหนึ่งคือหากปลูกไม้ชนิดนี้รวมกันหลาย ๆ ต้น และเมื่อถึงฤดูออกดอกจะทำให้ความสวยของสถานที่ และต้นชมพูพันธุ์ทิพย์สวยขึ้นไปอีกขั้น แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในการชมดอกชมพูพันธุ์ทิพย์ได้แก่ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จังหวัดนครปฐมนั่นเอง

Categories
ไม้ประดับ

พลูปีกนก ไม้ใบที่เหมาะกับการนำมาตกแต่งบ้านหลากหลายสไตล์

พลูปีกนก เป็นหนึ่งไม้ใบ ไม้ประดับที่อยู่ในสกุลเดียวกับพลูด่าง และพลูอีกหลาย ๆ ชนิด โดยไม้ชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในประเทศเวเนซุเอลา ทวีปอเมริกาใต้ เช่นเดียวกับมอนสเตอร่าหลาย ๆ ชนิด โดยชื่อทางวิทยาศาสตร์ของไม้ชนิดนี้คือ Monstera Karstenianum Peru (มอนสเตอร่า เปรู) ซึ่งนอกจากจะมีความสวยที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังเจริญเติบโตค่อนข้างเร็วอีกด้วย

พลูปีกนก เลี้ยงง่าย โตไว เหมาะกับทั้งปลูกทั้งในและนอกตัวบ้าน

พลูปีกนกหรือ พลูใบย่น นับว่าเป็นไม้ใบ ไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่หลายคนต่างบอกว่าเป็นไม้ที่โตเร็ว ดูแลง่าย และที่สำคัญสามารถปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน โดยไม้ชนิดนี้เป็นไม้เลื้อย ที่มีอายุยืน สามารถขยายพันธุ์ได้ง่าย ดังนั้นสำหรับใครที่เป็นมือใหม่ในการปลูก หรือเลี้ยงต้นไม้ชนิดนี้ หรือไม้ในกลุ่มพลูก็นับว่าเป็นพันธุ์ไม้ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

พลูปีกนก วิธีดูแล

สำหรับใครที่สงสัยว่าพลูปีกนก เลี้ยงยังไง วันนี้เรามีวิธีดูแล หรือเลี้ยงไม้ชนิดนี้ง่าย ๆ มาแนะนำ เนื่องจากไม้ชนิดนี้สามารถปลูกได้ทั้งในและนอกตัวบ้าน ดังนั้นวิธีดูแลจึงจะมีความแตกต่างกันออกไป โดยมีดังนี้

ดิน ดินที่เหมาะกับไม้ชนิดนี้แนะนำให้ใช้เป็นดินร่วน ซึ่งสามารถเป็นดินที่ผสมกับกาบมะพร้าว หรือใบก้ามปูหมักก็ได้เช่นกัน

น้ำ พืชชนิดนี้เป็นพืชที่ค่อนข้างที่จะชอบน้ำพอสมควร โดยเราแนะนำให้รดวันละ 1 ครั้งในช่วงเช้า โดยควรรดให้ชุ่ม แต่หากปลูกนอกตัวบ้านแนะนำให้รด 2 ครั้ง / วัน

แสงแดด ปริมาณแสงที่เหมาะสมคือแสงรำไร ไม่ควรร้อยจัดจนเกินไป เพราะจะทำให้ใบเฉาได้ แต่หากปลูกนอกบ้านแนะนำให้ปลูกในตำแหน่งที่มีร่มเงาจะดีที่สุด

ปุ๋ย สามารถให้ปุ๋ยได้ทุกชนิด โดยแนะนำให้เพียงเดือนละ 1 ครั้ง แต่หากเป็นปุ๋ยชนิดละลายช้า จะสามารถอยู่ได้ประมาณ 3 – 6 เดือน หลังจากนั้นจึงค่อยให้ปุ๋ยอีกครั้ง

3 ร้านขายพลูปีกนกบน Instagram พร้อมกับราคาตามท้องตลาด

สำหรับพลูปีกนกหากเป็นสายพันธุ์ทั่วไปจะมีราคาจะไม่สูงมากนัก โดย พลูปีกนกราคา จะอยู่ที่ประมาณ 60 – 500 บาท ยกเว้นกรณีที่เป็น พลูปีกนกด่าง หรือ พลูปีกนกด่างเหลือง ซึ่งจะมีราคาที่สูงกว่าสายพันธุ์ธรรมดาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาท

3 ร้านขายพลูปีกนกบน Instagram

  • Kiddee_garden

ฟาร์มที่เพาะและจำหน่ายไม้ประดับ ไม้ฟอกอากาศ และไม้ด่างหลากสายพันธุ์ที่มีให้เลือกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมี ดินและปุ๋ยน้ำสูตรพรีเมี่ยม เรียกว่ามาร้านเดียวได้ครบทุกอย่าง

  • Thebeansplants

ร้านขายไม้ประดับขนาดจิ๋ว เหมาะกับการนำไปวางประดับไว้ในส่วนต่าง ๆ ของบ้านได้เลย นอกจากนี้ยังมีกระถางน่ารัก ๆ พร้อมพร็อพสำหรับนำไปตกแต่งไม้ประดับอีกมากมาย

  • Plant.nnn

ร้านขายไม้ประดับและไม้ด่าง ที่มีไม้ให้เลือกหลากหลายสายพันธุ์ ที่สำคัญยังมีราคาที่ย่อมเยามีเงินหลักร้อยก็สามารถเป็นเจ้าของพลูปีกนก และไม้ด่างสวย ๆ ได้

บทสรุป

สำหรับพลูปีกนกจัดว่าเป็นกลุ่มไม้เลื้อย ดังนั้นสำหรับใครที่อยากปลูกไว้นอกบ้าน และทำเป็นซุ้มประตูหรือประดับส่วนต่าง ๆ ที่ต้องอยู่ในตำแหน่งที่มีแสงแดดร้อนจัด เราอยากแนะนำให้ปลูกพลูในร่มให้มีขนาดต้นที่โต และมีความแข็งแรงในระดับหนึ่งก่อน ก่อนที่จะนำไปปลูก หรือวางในตำแหน่งที่ต้องการ เพราะหากเป็นต้นที่มีอายุยังน้อย หรือโตยังไม่เต็มที่ก็อาจจะทำให้ต้นไม้ของเราตายได้

Categories
ไม้ประดับ

เดฟหัวใจ ไม้ประดับราคาถูก ที่หาซื้อได้ง่าย แถมสวยเป็นเอกลักษณ์

เดฟหัวใจ ต้นไม้ประดับราคาถูกที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องเคยเห็นกันมาบ้างแล้ว แต่อาจจะไม่ทราบว่าต้นไม้ชนิดนี้ชื่ออะไร โดยไม้ประดับชนิดนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Dischidia ruscifolia Decne. ex Becc. ซึ่งเป็นประเภทไม้เลื้อย และนิยมนำมาจำหน่ายโดยนำไปใส่กระถางสำหรับห้อย หรือดัดเป็นรูปต่าง ๆ ให้เกิดความสวยงาม และเป็นการเพิ่มมูลค่าอีกด้วย

เดฟหัวใจ ดูแลไม่ยาก ขยายพันธุ์เร็ว เหมาะกับการปลูกเพื่อสร้างรายได้

เดฟหัวใจหรือ หัวใจล้านดวง นับว่าเป็นไม้ประดับที่โตง่าย มีขั้นตอนในการดูแลที่ไม่ซับซ้อนมากนัก และที่สำคัญยังสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงเหมาะกับทั้งการนำไปประดับบ้าน หรือนำไปขยายพันธุ์เพื่อสร้างรายได้เป็นอย่างยิ่ง

เดฟหัวใจ วิธีดูแล

  • ดิน ดินที่ใช้ในการปลูก แนะนำให้ใช้เป็นดินร่วนผสมกาบมะพร้าว เนื่องจากจะทำให้สามารถกักเก็บความชุ่มชื่นให้กับต้นไม้ได้เป็นอย่างดี
  • น้ำ การรดน้ำเราแนะนำให้รดน้ำประมาณวันละ 2 ครั้ง (แบ่งเป็นช่วงเช้า – เย็น) เนื่องจากไม้ชนิดนี้จะนิยมนำไปห้อยประดับไว้นอกตัวบ้าน จึงจำเป็นต้องให้ความชุ่มชื่นกับต้นไม้พอสมควร
  • แสงแดด สำหรับใครที่สงสัยว่า เดฟชอบแดดไหม คำตอบคือ เดฟหัวใจชอบแดดรำไร ไม่ร้อนจัดจนเกินไป ดังนั้นจึงควรห้อยกระถางของต้นไม้ในตำแหน่งที่มีแดดส่องถึง แต่ไม่แรงจนเกินไป
  • ปุ๋ย การให้ปุ๋ยไม่จำเป็นต้องให้ถี่เกินไป โดยแนะนำให้ 1 – 2 เดือน /ครั้ง และสามารถใช้เป็นปุ๋ยชนิดใดก็ได้

วิธีขยายพันธุ์

วิธีขยายพันธุ์ของไม้ประดับชนิดนี้สามารถทำได้ง่ายเป็นอย่างยิ่ง โดยเริ่มจากการเลือกกิ่งที่ต้องการนำไปขยายพันธุ์ที่มีความยาวประมาณ 5 – 6 นิ้ว มาวางเตรียมไว้ จากนั้นเตรียมดินที่ต้องการปลูกใส่ลงในกระถาง ซึ่งใช้เป็นกระถางขนาดใดก็ได้ (เลือกให้เหมาะสมกับจำนวนของต้นพันธุ์) จากนั้นก็สามารถนำกิ่งที่จะขยายพันธุ์ไปปักลงดินที่เตรียมไว้ จากนั้นรดน้ำให้ชุ่ม รอเวลา 7 – 8 วันรากของกิ่งก็จะเริ่มงอกออกมา ประมาณ 1 เดือนก็สามารถนำไปปลูกต่อได้เลย

ราคา และร้านจำหน่ายเดฟหัวใจที่อยากแนะนำ

เดฟหัวใจเป็นต้นไม้ประดับที่มีราคาถูก และหาซื้อได้ง่ายเป็นอย่างยิ่ง โดย เดฟหัวใจล้านดวง จะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20 – 300 บาท ซึ่งนับว่าเป็นต้นไม้ประดับที่ทั้งสวย และมีราคาที่ไม่สูงอีกด้วย นอกจากนี้แล้ว สำหรับใครที่อยากหาซื้อ ต้นเดฟหัวใจ มาประดับบ้าน หรือ นำมาปลูกขยายพันธุ์ ก็หาซื้อได้ไม่ยากนัก ซึ่งหาซื้อได้ง่าย ๆ จากทั้งร้านค้าออนไลน์ และร้านจำหน่าย หรือตลาดต้นไม้หลาย ๆ แห่ง ดังนั้นหากใครที่อยากได้ไม้ประดับที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพก็สามารถลองนำมาปลูกประดับบ้านซักต้นได้เลย

บทสรุป

ก่อนที่จะจากกันไปในวันนี้เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับคนที่อยากขยายพันธุ์เดฟหัวใจด้วยตัวเอง ในส่วนของการเลือกดิน หรือวัสดุสำหรับขยายพันธุ์ โดยคุณสามารถใช้ได้ทั้งแบบที่เป็นดินผสมกาบมะพร้าว หรือแบบที่เป็นกาบมะพร้าวล้วนก็ได้เช่นกัน และ 1 กระถางสามารถเพาะชำต้นกล้าได้มากกว่า 1 ต้นอีกด้วย