หมวดหมู่: ต้นไม้ด่าง

เตยด่าง หนึ่งในไม้ประดับที่มักจะถูกนำมาปลูกปะดับในสวนที่มีขนาดใหญ่ หรือการตกแต่งสวนใหญ่ ๆ เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากไม้ประดับชนิดนี้ดูแลไม่ยาก เหมาะกับการนำไปปลูกประดับสวนและบ้านเป็นอย่างยิ่ง

เตยด่าง ดูแลง่าย เหมาะกับการนำไปปลูกประดับทั้งในและนอกตัวบ้าน

เตยด่างหรือ เตยทอง เป็นไม้พุ่มล้มลุกเช่นเดียวกับ เตยหอม ดังนั้นจึงสามารถนำใบของต้นเตยด่างไปทำประโยชน์ได้หลายอย่าง โดยเตยด่าง ชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Pandanus sanderi Sander ex M.T. Mast ที่ได้รับความนิยมสูงตั้งแต่ปี 2554 ที่ผ่านมา เนื่องจากไม้ชนิดนี้มีความทนทานต่อสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ดี และช่วงนั้นเป็นช่วงน้ำท่วมหนักจึงทำให้ไม้ชนิดนี้ได้รับความนิยมเรื่อยมา

เตยด่างวิธีดูแล
สำหรับวิธีดูแลเตยต่างนั้นไม่อยากอย่างที่คิด เนื่องจากพืชชนิดนี้ทนแดดทนฝนได้ดี ที่สำคัญยังเป็นไม้ที่ชอบความชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำให้ใช้ดินร่วน ผสมดินเหนียวในการปลูก และให้รดน้ำวันละ 1 – 2 ครั้ง โดยต้องรดให้ชุ่มแต่ไม่ไปจนถึงแฉะจนเกินไป ที่สำคัญเนื่องจากไม้ชนิดนี้ทนความร้อนได้ดี แต่หากไม้ชนิดนี้ได้รับแสงมากเกินไปจะทำให้ใบที่เป็นด่างจะกลายเป็นสีเขียวได้ ดังนั้นจึงควรวางกระถาง หรือปลูกในตำแหน่งที่ต้นไม้ได้รับแสงแดดรำไรตลอดทั้งวันเท่านั้นก็พอแล้ว และสำหรับปุ๋ย ยังสามารถใส่ปุ๋ยได้ทุกชนิด โดยแนะนำให้ใส่ 1 – 2 ครั้ง / เดือน

เตยด่างนอกจากจะราคาถูกแล้ว ยังหาซื้อง่ายอีกด้วย

เตยด่างนอกจากจะเป็นไม้ประดับที่สามารถปลูกและดูแลได้ค่อนข้างง่ายแล้ว ที่สำคัญกว่านั้นยังมีราคาที่ถูก และหาซื้อได้ไม่ยากอีกด้วย โดยเตยด่าง ราคา จะอยู่ที่ประมาณ 35 – 300 บาทเท่านั้น นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากได้ไม้ประดับที่สามารถปลูกเพื่อทำเงินได้ง่าย ลงทุนต่ำ เตยด่างก็นับว่าเป็นไม้ประดับที่น่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง เพราะนอกจากเตยด่าง จัดสวน ได้แล้ว ใบของเตยด่างสามารถนำไปประดับช่อดอกไม้ หรือนำไปพับเป็นช่อดอกไม้เตยด่างได้อีกด้วย นอกจากนี้สำหรับใครที่อยากหาซื้อเตยด่างก็หาซื้อไม่ยากอย่างที่คิด ทั้งทางออนไลน์ และหน้าร้านตามตลาดต้นไม้ หรือร้านขายไม้ประดับต่าง ๆ ก็มักจะมีไม้ประดับชนิดนี้วางขายเช่นกัน          

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับเตยด่าง ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ และก่อนที่จะจากกันไปในวันนี้ เราอยากแนะนำในเรื่องของความแตกต่างกันระหว่างเตยด่าง กับ เศรษฐีเรือนใน ซึ่งเป็นไม้ประดับที่มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่สำหรับวิธีสังเกตให้เห็นความแตกต่างกันระหว่างไม้ 2 ชนิดนี้คือเตยด่างจะมีด่างสีเหลืองทองอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังมีใบที่หนา และใบใหม่ที่แตกออกมาบริเวณกลางกอจะมีลักษณะที่แหลม ตั้งตรง และไม่แบะออก แต่สำหรับเศรษฐีเรือนในจะมีด่างที่เป็นสีขาว กลางกอมีความแบะออกอย่างเห็นได้ชัด และใบจะไม่หนาเท่าที่ควรนั่นเอง

บอนกระดาดด่าง เป็นไม้ประดับสายพันธุ์ตระกูล Alocasia ตระกูลเดียวกับต้นบอน มีคุณสมบัติในการฟอกอากาศ ซึ่งต้นบอนกระดาดด่างจะมีทั้งที่เป็นด่างเหลือง และด่างขาว นับเป็นไม้ประดับในกระแสที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตระกูลบอนที่นักสะสมบอนสีหลายคนให้ความสนใจ เพราะปัจจุบันเป็นที่ต้องการของนักสะสม และที่สำคัญเป็นพันธุ์ไม้หายาก ในปัจจุบันราคาพุ่งสูงมาก

วิธีปลูกต้น บอนกระดาดด่าง แบบง่ายปลูกเองได้ที่บ้าน

ขั้นตอนและวิธีปลูกต้นบอนกระดาดด่าง มีดังนี้

• เตรียมเมล็ดพันธุ์หรือหัวต้นบอนกระดาดด่าง
• เตรียมดินโดยการขุดหลุม สูตรปรุงดิน มีดังนี้
• ดิน 1 ส่วน
• กากมะพร้าวสับละเอียดแช่น้ำ 1 คืน
• ปุ๋ยคอก 1 ส่วน
• ถ่านแช่น้ำ 1 คืน
• น้ำหมัก EM 20 CC ต่อน้ำ 10-20 ลิตร
• ไอโคเดอมา 20 CC ต่อน้ำ 10-20 ลิตร

หากปลูกในกระถางให้ใช้กระถางขนาด 17 นิ้วสำหรับปลูกบอนกระดาดด่างหัวใหญ่ให้รองก้นกระถางด้วยกากมะพร้าวที่เตรียมไว้ หากปลูกนอกกระถางให้ขุดหลุมขนาดกว้างXยาวXสูง 30X30X30

• รดน้ำให้ดินชุ่ม เพราะต้นบอนกระดาดเป็นพืชที่ชอบน้ำ
• ไว้ในที่แดดรำไร หรือ หากเป็นต้นอ่อน 3-6 เดือน ให้เพาะไว้ในตู้อบ

เมื่อเวลาผ่านไปต้นบอนกระดาดจะเน่าและเปื่อยบริเวณลำต้นที่เพาะไว้ แล้วจะทำการแตกหน่อออกมาเป็นต้นใหม่ หากเป็นเมล็ด จะแตกต้นอ่อนภายใน 3 สัปดาห์ นำต้นอ่อนบอนกระดาดด่างมาเปลี่ยนกระถางที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

วิธีขยายพันธุ์ต้นบอนกระดาดด่าง

• ต้นบอนกระดาดด่างต้องมีอายุกี่ปีจึงจะขยายพันธุ์ได้?

ต้นบอนกระดาดด่างที่เหมาะแก่การนำมาเพาะเพื่อขยายพันธุ์ต้องเป็นต้นที่มีอายุตั้งแต่ 8-9 เดือน โดยวิธีและขั้นตอนการขยายพันธุ์ มีดังนี้

1. แยกต้นบอนกระดาดด่างออกจากกระถาง เพื่อวามสะดวกในการแยกหน่อและไข่
2. แยกหน่อออกไปใส่ในกระถางเล็กและนำไปแช่น้ำยาเร่งรากผสมไอโคเดอมา
3. เริ่มรื้อไข่โดยการเกลี่ยดิน ขั้นตอนนี้ควรสวมใส่ถุงมือเพราะยางของต้นบอนกระดาดด่างจะทำให้คัน ระคายเคืองต่อผิว
4. หลังจากนั้น ก่อนนำต้นบอนกระดาดด่างลงกระถางเดิม ให้ทำการตัดใบทิ้งก่อน เพื่อลดการคายน้ำ ควรเหลือไว้ 1-2 ใบ ไม่เกิน 3 ใบ
5. เตรียมดินตามส่วนผสมที่แจ้งไว้ในวิธีปลูกแล้วเอาต้นบอนกระดาดด่างลงไปปลูก
6. ต้นบอนกระดาดด่างที่มีอายุ 8-9 เดือนให้ไข่กี่ใบ?

ต้นบอนกระดาดด่างที่มีอายุ 8-9 เดือนสามารถให้ไข่ได้ถึง 118 ฟอง และให้หน่อ จำนวน 1 หน่อ

สรุป

ต้นบอนกระดาดด่างเป็นพันธุ์ไม้สวยงามที่มีรูปแบบการดูแล รักษาแตกต่างกับพันธุ์ไม้ชนิดอื่นๆ เนื่องจากเป็นพันธุ์ไม้ที่มีคลอโรฟิลล์น้อย จึงต้องการแสงแดดในปริมาณที่เพียงพอ ทั้งนี้ ราคาต้นบอนกระดาดด่างจะขึ้นอยู่กับลวดลายและความด่างนับได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการตีราคาตลาดได้เป็นอย่างดี

หูช้างด่างในช่วงหลังๆ มานี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ระบาดอย่างหนักทำให้หลายคนต้องทำงานอยู่ในบ้าน ทำให้กระแสการปลูกต้นไม้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นไม้ฟอกอากาศ ไม้มงคล ไม้ประดับ หรือล่าสุด หูช้างด่าง ได้รับความนิยมอย่างมากทำให้ ราคาหูช้างด่าง สร้างยอดขายถึงหลักล้าน ด้วยลักษณะเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละต้นที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้ ต้นหูช้างด่าง ราคา จะสูงกว่าต้นไม้ทั่วไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหายากและความสวยงาม วันนี้เราจะมาแนะนำ หูช้างด่าง แต่ละชนิด ไปดูกันเลยค่ะ

มารู้จักต้น หูช้างด่าง พร้อมวิธีการดูแลให้สวยงามอยู่เสมอ

หูช้างด่างลักษณะทั่วไป เป็นต้นไม้แบบอิงอาศัย อายุหลายปี ลำต้น ขนาดกลาง มีรากอากาศ ใบ เดี่ยวเรียงเวียน รูปหัวใจ ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนเว้ารูปหัวใจ ขอบใบเว้าเป็นคลื่น แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง สีเขียวเข้ม เส้นกลางใบด้านล่างนูนเด่นชัด ก้านใบรูปทรงกระบอกเรียวแคบไปทางปลาย ปลอกหุ้มยอดสีเขียวอมเหลือง ดอก ออกเป็นช่อเชิงลดมีกาบหูช้างด่าง ชอบดินร่วนระบายน้ำดี แสงแดดรำไร การขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ปักชำยอด และตอนกิ่ง นิยมปลูกเป็นไม้กระถางประดับในอาคารและปลูกประดับสวน

หูช้างด่างกับบอนกระดาษ มีความคล้ายคลึงกันมาก โดยจะแตกต่างกันที่ ก้านใบ ลักษณะของก้านใบหูช้างจะมีหู ส่วนบอนกระดาษไม่มีหู ทรงใบ ลักษณะของทรงใบหูช้างจะคล้ายรูปหัวใจ รูปใบโพธิ์ ส่วนบอนกระดาษ ตรงปลายใบจะไม่สโลพจะมีความหนากว่า ปลายใบ ลักษณะของปลายใบหูช้างจะมีงวง ส่วนบอนกระดาษ จะไม่มีงวงแหลม

หูช้างด่างคือ ต้นไม้ด่างกลุ่มอโลคาเซียที่กำลังเป็นต้นไม้กระแสยอดนิยมที่ซื้อขายกันหลักหมื่นถึงหลักล้านในช่วงที่ผ่านมาถือได้ว่าเป็นไม้ด่างที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วงนี้คือ บอนหูช้างด่างหรือ ต้นฟิโลหูช้างด่าง ซึ่งเป็นบอนที่มีลายด่างที่สวยงามมากชนิดหนึ่งทำให้ บอนหูช้างด่างราคาสูง เมื่อต้นปีราคาซื้อขายยังอยู่ในช่วงหลักพันบาท จนเกินกระแสคนหามาปลูกเลี้ยงกันมากขึ้น ราคาซื้อขายในตลาดขยับขึ้นสูงอย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาดผู้ที่ชื่นชอบต้นไม้

หูช้างด่างโดยราคาเริ่มต้นในตอนนี้ ต้นที่มีขนาดเล็กความสูงเพียง 15-25 ซม. ซื้อขายกันหลักหมื่นเลยทีเดียว หรือต้นไหนที่ลายด่างสวยขนาดต้นใหญ่มากขึ้น ราคาก็ขยับขึ้นไปหลายหมื่นจนแตะหลักแสน ที่ผ่านมาก็สามารถขายกันได้หลักล้านบาทกันมาแล้ว

สรุปส่งท้าย

หูช้างด่างเป็นต้นไม้ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะ เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม ซึ่งมีทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและเกิดจากการตัดแต่งพันธุกรรม วิธีดูแลหูช้างด่าง จึงจำเป็นต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษทั้งเรื่องแสงและน้ำ

ปัจจุบันการเลี้ยงหูช้างด่าง เป็นที่นิยมในกลุ่มคนชื่นชอบการสะสมพันธุ์ไม้ ด้วยลักษณะเฉพาะในแต่ละต้น โดยเฉพาะ ฟิโลหูช้างด่างหลืองราคา สูงกว่าชนิดทั่วไป และ ฟิโลหูช้างด่างขาวราคา สูงไม่แพ้กัน ตามความสวยงามและความหายากของพันธุ์ไม้ สำหรับใครที่สนใจสามารถหาซื้อได้ตามตลาดต้นไม้หรือร้านขายต้นไม้ หรือแม้แต่ร้านขายต้นไม้ออนไลน์ก็มีให้เลือกมากมาย

ถุงเงินถุงทองตั้งแต่มีโรคโควิด-19 ระบาดอย่างหนักทำให้ทุกคนต้องทำงานอยู่ภายในบ้าน (WORK FROM HOME) คนส่วนใหญ่หันมาปลูกต้นไม้มากยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นต้นไม้ขนาดเล็กที่สามารถดูแลง่ายๆ เพื่อเพิ่มสีเขียวให้กับพื้นที่ภายในห้อง ให้การทำงานอันเหนื่อยล้าเมื่อหันมาเจอสีเขียวของต้นไม้จะช่วยให้ผ่อนคลายได้ ซึ่งในวันนี้เราจะมาแนะนำ ถุงเงินถุงทอง ที่ช่วยฟอกอากาศทำให้บรรยากาศในห้องดีขึ้นและยังเสริมมงคลในชีวิตได้ดีอีกด้วยโดยเฉพาะคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ถ้าพร้อมแล้วก็ตามมาดูได้เลย

มารู้จักต้นถุงเงินถุงทอง พร้อมวิธีการดูแลให้สวยงาม

ถุงเงินถุงทองโดย ลักษณะต้นถุงเงินถุงทอง เป็นไม้ล้มลุก อายุหลายปี ความสูงประมาณ 80 -120 เซนติเมตร ลำต้น อยู่ใต้ดินเป็นหัวคล้ายเผือก ใบ เป็นใบเดี่ยว รูปหัวใจ แต่มักบิดเบี้ยว แผ่นใบกว้างประมาณ 30 เซนติเมตร ใบสีเขียว มีแถบด่างสีขาวประปรายสีเหลือง ดอก ช่อดอกออกจากซอกกาบใบ เป็นช่อเชิงลดมีกาบ ปลีดอกเรียวยาว สีเหลือง ใบประดับสีเขียวอ่อนอมเหลืองเมื่อออกดอกจะมีกลิ่นหอม                                                                            

ถุงเงินถุงทองด่าง การดูแล เป็นต้นไม้ที่ดูแลง่าย ต้นถุงเงินถุงทองชอบแดดไหม เป็นว่านที่ชอบแสงแดด ส่องรำไร ชอบดินร่วน ชอบน้ำ สามารถปลูกริมน้ำได้ หรือการปลูกถุงเงินถุงทอง ต้นเล็ก ในกระถางควรรดน้ำให้เขาอย่างน้อย 1 ครั้งในทุกๆ 2 วัน การให้น้ำไม่ต้องให้บ่อยเกินไป อย่าให้น้ำเยอะเกินไปเพราะจะทำให้รากอุ้มน้ำเน่าตายได้ถุงเงินถุงทอง ควรใส่ ปุ๋ยสังเคราะห์หรือปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มสารอาหาร

ถุงเงินถุงทองการขยายพันธุ์ นิยมขยายพันธุ์ด้วยการแยกเหง้า                                                           

ถุงเงินถุงทองความหมาย เป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ขับไล่คุณไสย ดูดทรัพย์สินเข้าร้านค้าถุงเงินถุงทอง ต้นไม้ เป็นพืชไม้มงคลที่เหมาะสำคนที่เกิดวันพฤหัสบดีเป็นเมตามหานิยมอย่างมาก เชื่อกันว่าถ้าปลูกไว้ที่บ้านจะช่วยป้องกันคุณไสยและมีอานุภาพทางการเงิน ประดุจมีถุงเงินถุงทอง การค้าขายดี เก็บเงินเก็บทองได้มากเป็นกอบเป็นกำ เป็นความเชื่อที่มีต่อๆกันมา

ถุงเงินถุงทอง ถือเป็นพันธุ์ไม้ด่างคลาสสิกที่ตอนนี้กลับมานิยมอีกครั้ง

ต้นถุงเงินถุงทอง มีหัวอยู่ใต้ดิน มีลักษณะพิเศษคือรูปทรงใบซึ่งปลายใบเป็นเหมือนถุงและในต้นเดียวกันจะมีทั้งใบด่างขาวและด่างเหลือง จึงเป็นที่มาของชื่อถุงเงินถุงทอง ถ้าใครเลือกไม่ถูกว่าจะซื้อต้นไม้ด่างขาวหรือด่างเหลืองดี แนะนำเลือกต้นนี้เลยค่ะ ได้ทั้งสองสีแน่นอน                                                                                                                                       

การปลูกถุงเงินถุงทอง โดยเฉพาะการปลูก บอนถุงเงินถุงทองด่าง ซึ่งเป็นไม้ที่มีความสวยงามมากเป็นพิเศษ แถมยังสามารถขยายพันธุ์ขายสร้างรายได้ค่อนข้างดี จากการที่ต้นไม้ขายดีส่งผลทำให้ บอนถุงเงินถุงทองราคา พุ่งขึ้นสูงเป็นอย่างมาก ซึ่งปีนี้ต้องยอมรับว่ากระแสไม้ด่างมาแรงมากจริงๆ มีการซื้อขายอย่างคึกคักทั้งร้านขายต้นไม้หรือขายผ่านช่องทางออนไลน์ สร้างอาชีพสร้างรายได้แก่ผู้ที่ปลูกเลี้ยงต้นไม้เป็นอย่างมาก เพื่อนๆลองไปหาซื้อถุงเงินถุงทอง มาปลูกกันดูนะคะ

พลูฉลุด่าง เป็น ไม้เลื้อยเนื้ออ่อน มีอายุอยู่ได้หลายปี ลำต้นของพลูฉลุมีลักษณะอ่อนและเล็ก มีข้อปล้องตามลำต้น ชอบเลื้อยพันไปตามไม้ค้ำ รากจะงอกออกมาตามข้อปล้อง ดอกมีลักษณะเป็นช่อ ค่อนข้างยาว และมีกาบคอยหุ้มช่อดอกสีขาวอีกชั้นหนึ่ง ใบมีลักษณะเป็นใบเดี่ยว ขึ้นเรียงสลับกันไปมา ช่วงตรงโคนใบมีรูปทรงมน ส่วนปลายใบมีรูปทรงเรียวแหลม มีสีเขียวจนเขียวเข้มและมีความโดดเด่นตรงที่แผ่นใบมีรูเว้าขนาดเล็ก ขนาดใหญ่สลับปะปนกันเหมือนลายฉลุ จึงเป็นที่มาของชื่อ พลูฉลุ นั่นเอง ทำให้สวยงามแปลกตาจึงนิยมใช้เป็นไม้ประดับ ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก ขยายพันธุ์ด้วยการปักชำ โตได้ในดินทั่วไป ชอบแสงแดดร่มรำไรและต้องการความชื้นสูง

พลูฉลุด่าง ที่จะแนะนำให้รู้จัก ทั้ง 3 ชนิด คือพลูฉลุที่หาง่ายที่สุดจนถึงหายากที่สุดมาดูกันเลยว่าแต่ละชนิดเป็นอย่างไร          

1.Monstera Adansonii เป็นพลูฉลุขั้นพื้นฐาน ราคาถูก มีตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อย  เป็นพลูฉลุที่คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเป็น พลูฉลุที่มีราคาสูง ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว พลูฉลุเหล่านี้ราคาไม่ได้สูงมากมายหลักสิบ แต่ถ้าเป็นพลูฉลุด่าง จะมีราคาสูง การเจริญเติบโตค่อนข้างเร็ว ใบใหญ่ประมาณ 2 ฟุต

2.Monstera SP ESQUELETO หรือ พลูฉลุยักษ์ ราคาจะเริ่มค่อนข้างสูง ส่วนใหญ่พบปัญหาคล้ายพลูฉลุธรรมดา เราควรซื้อในช่วงที่ใบเริ่มใหญ่ถึงจะสามารถแยกได้อย่างเห็นได้ชัด จากความห่างของรู ที่ห่างและกว้างขึ้นและขนาดของใบที่ใหญ่ขึ้นกว่าพลูฉลุธรรมดา

3.Monstera obliqua (Super Rare) พลูฉลุหายากที่สุด ราคาสูงมาก หายากที่สุดและมีราคาสูงที่สุด บางคนคนเข้าใจผิดคิดว่ามันคือพลูฉลุธรรมดา

มีวิธีดูแลต้นไม้อย่างไรให้พลูฉลุด่างใบสวยสีชัด

การเลี้ยง การดูแลพลูฉลุด่าง มีเคล็ดลับง่ายๆถึงแม้ว่าจะเพิ่งเริ่มต้นหัดปลูกต้นไม้ ก็สามารถเรียนรู้วิธีดูแลต้นไม้ให้สวยได้ไม่ยาก เพราะเป็นพันธุ์ไม้ที่การเลี้ยงดูง่ายตายยากอยู่แล้ว จะยากง่ายแค่ไหนไปดูกันเลยค่ะ                    

1.ดิน ควรเป็นดินร่วนผสมกับทรายหยาบ ผสมปุ๋ยคอกรวมลงในดินด้วย                                               

2.น้ำ เป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูง ควรรดน้ำให้ชุ่มอย่างสม่ำเสมอ ต้องดูตามสภาพดินและอากาศเป็นหลัก                                                   

3.แสงแดด ควรปลูกไว้ที่ที่มีแดดส่องถึงได้ประมาณ 50 % พลูฉลุด่างจะเจริญเติบโตได้ดีในอุณหภูมิ 18 ถึง 24 องศา                    

4.ปุ๋ย สามารถใช้ได้ทั้งปุ๋ยเคมีและปุ๋ยคอก โดยสูตรที่แนะนำให้ใช้ คือ สูตร 16-8-8 ในปริมาณ 10-20 เม็ดต่อน้ำ 1 ลิตร ควรใส่ 2-3 เดือน ต่อครั้ง ปริมาณปุ๋ยที่ใส่ควรขึ้นอยู่กับขนาดของต้นไม้ หลังจากใส่ปุ๋ยเสร็จแล้วควรรดน้ำให้ชุ่มเพราะปุ๋ยจะไปเพิ่มความเป็นกรดของดินมากขึ้น ซึ่งอาจทำให้พลูฉลุเหี่ยวตายได้ ในส่วน การขยายพันธุ์พลูฉลุ นิยมทำโดยวิธีการปักชำมากที่สุดเนื่องจากมีโอกาสรอดสูง ติดง่าย และแข็งแรงเร็วกว่าวิธีอื่น

บทสรุป    

พลูฉลุด่าง นอกจากนิยมนำมาตกแต่งบ้านเพื่อเพิ่มความสวยงามและยังช่วยสร้างบรรยากาศให้บ้านสดชื่น ร่มรื่น สบายตาแล้ว ยังช่วยช่วยฟอกอากาศ ดูดซับสารพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทำให้บ้านมีอากาศที่บริสุทธิ์ส่งผลให้มีสุขภาพที่ดีจึงอยากแนะนำให้ลอง ปลูกพลูฉลุด่างไม้เลื้อย ที่มีวิธีดูแลต้นไม้ที่แสนง่ายนี้กันเยอะๆนะคะ ช่วงนี้ไปไหนก็มักได้ยินใครๆพูดถึงการปลูกต้นไม้ และดูเหมือนว่ากำลังเป็นเทรนด์ใหม่ที่กำลังฮิตอย่างมาก ทำให้ พลูฉลุด่างราคาสูง ลองหามาปลูกกันเยอะๆนะคะ

ต้นกระดาด หรือเรียกอีกชื่อว่า บอนกระดาด มีลักษณะใกล้เคียงกับต้นบอนซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับต้นบอน กลายเป็นไม้ประดับทำเงิน สร้างรายได้ คนส่วนใหญ่นิยมนำไปปลูกจัดใส่กระถางและปลูกตามบริเวณบ้าน ปัจจุบันมีจำหน่ายทั้งต้นและเหง้า เพื่อให้ผู้สนใจนำไปปลูกเลี้ยงที่บ้านได้และที่กลายเป็นต้นไม้ประดับที่กระแสดีมาแรง เนื่องจากบอนกระดาดมีความหลากหลายทางสีสัน เมื่อด่างแล้วมีลวดลายสวยคล้ายกล้วยด่างฟลอริดา ทำให้ราคาของ บอนกระดาดด่าง พุ่งจากราคาหลักร้อยทุกวันนี้ราคาหลักหมื่น ทั้งนี้ ราคาบอนกระดาดด่าง ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของแต่ละต้น ความสวยงามของบอนกระดาดด่าง จะดูกันที่ลวดลายของใบ ต้นกระดาดเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยว เรียงเวียนกันเป็นกลุ่มที่ปลายลำต้น ใบรูปไข่กว้างแกมหัวใจขนาดกว้าง ปลายแหลม โคนเว้น ลึก แคบ ขอบเรียบหรือเป็นคลื่น ก้านใบใหญ่สีเขียวหรือม่วง

ลักษณะและวิธีปลูก การดูแล บอนกระดาดด่าง

1.ต้น เป็น ไม้ล้มลุกมีหัวอยู่ใต้ดิน เจริญเป็นกอสูงได้ถึง 2 เมตร ลำต้นสั้น ตั้งตรง สีม่วงปนสีน้ำตาล อวบน้ำ

2.ใบ ใบเดี่ยว เรียงเวียนสลับ รูปไข่แกมรูปหัวใจ ปลายติ่งแหลม โคนเว้าลึก ขอบเป็นคลื่น แผ่นใบสีเขียว มีรอยด่างปื้นสีขาวอมเทากระจายไม่เป็นระเบียบ ผิวเรียบเป็นมัน มีก้านใบใหญ่ สีเขียวมีรอยด่างสีขาว เป็นปื้นยาว               

3.ดอก ออกดอกเป็นช่อ ออกตามปลายยอด มีกาบรองดอกสีเหลืองอมเขียวหุ้มอยู่ โคนกาบโอบรอบโคนช่อดอก ดอกเพศผู้อยู่บริเวณส่วนบน ดอกเพศเมียอยู่บริเวณโคนช่อ                                                     

4.ผล กลม เป็นกระจุก ไม่มีก้านผล ผลอ่อนสีเขียว ผลสุกสีส้มแดง                                                                    

5.ถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้                                                                                                6.การปลูก ใช้ดินเหนียวหรือดินร่วน ต้องการน้ำมาก ชอบแดดรำไร                                                                    

7.การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ด้วยการแยกกอ ขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ด และขยายพันธุ์ด้วยเหง้าหรือเรียกว่าไข่บอนกระดาด                                                                                           

8.การใช้ประโยชน์ ปลูกประดับสวน ปลูกเป็นไม้กระถาง บอนกระดาษราคาสูง สร้างรายได้

วิธีปลูก การดูแล บอนกระดาดด่าง

1.เตรียมดิน ขุดหลุมกว้าง x ยาว x สูง = 30 x 30 x 30 เซนติเมตร รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก โดยขุดห่างกัน 1.5 – 2 เมตร                                                                                   

2.เมื่อต้นกล้าอายุได้ 3-6 เดือน รากเติบโตดี นำปลูกลงในหลุมที่เตรียมไว้ กลบดินให้แน่น แต่ไม่ต้องกลบเต็มหลุม ให้มีน้ำขังเล็กน้อย                                                            

3.ให้ปุ๋ยได้เมื่อปลูก 2-3 เดือน                                                       

4.รดน้ำ บอนกระดาดด่าง ให้ชุ่มอยู่เสมอ

5.เมื่อต้องการขุดเหง้าต้นกระดาษ ควรใส่ถุงมือ เพราะยางจะทำให้คันมาก

บทสรุป

บอนกระดาดด่างเป็นต้นไม้ที่มีความโดดเด่น มีใบขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบต้นไม้ที่ดูอลังการใบใหญ่ก็ขอแนะนำเลยค่ะ จะปลูกไว้จัดสวนบริเวณบ้านเพื่อให้ความร่มรื่น ช่วยฟอกอากาศ หรือจะ ปลูกบอนกระดาดด่าง ในกระถางไว้ในบ้านหรือตกแต่งร้านก็ได้ค่ะ อีกทั้งเป็นต้นไม้ที่ปลูกง่ายดูแลไม่ยากแค่ลดน้ำให้มีความชุ่มชื่นปลูกในที่แดดรำไรก็จะได้ ต้นบอนกระดาดด่าง ที่สวยงามและยังอาจจะสร้างรายได้ให้เราอีกด้วย ต้นบอนกระดาดมีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น บอนกระดาดดำ บอนกระดาดยักษ์ บอนกระดาดทอง พันธุ์เหล่านี้ราคาก็ไม่แพงหาซื้อได้ตามตลาดต้นไม้

สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหางานอดิเรกที่สามารถทำที่บ้านได้ในช่วงโควิดแบบนี้ หรือตามหาต้นไม้เพื่อนำไปเป็นของขวัญให้กับคนสำคัญในวันสุดพิเศษ เราขอแนะนำ ปะการัง สายรุ้ง ต้นไม้แสนสวยที่มีรูปร่างคล้ายประการัง น้องจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่ได้รับอย่างแน่นอน ด้วยสีสันที่งดงาม และรูปร่างที่น่ารัก จึงเป็นที่ชื่นชอบสำหรับทุกเพศ ทุกวัย จะนำแตกแต่งห้องนั่งเล่นให้สดใสขึ้นก็ดี ห้องทำงานให้ผ่อนคลายขึ้นก็ดีวันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับ แคสตัสปะการัง สายรุ้ง กัน ถ้าทุกคนพร้อมแล้ว เชิญรับชมได้เลยครับ

ข้อควรรู้ในการดูแลต้น ปะการัง สายรุ้ง

สำหรับ ต้นปะการัง สายรุ้ง การดูแล ไม่ได้ยากอย่างที่พวกเราคิดเลย ที่จริงแล้วง่ายมาก ๆ ด้วย สำหรับเพื่อน ๆ ที่มีความสนใจอยากจะเริ่มเลี้ยงน้องประการัง สายรุ้ง วันนี้พวกเรามี Tip ดี ๆ จากประสบการณ์ของผู้เขียนในการดูแลน้อง ให้สามารถเติบโตอย่างแข็งแรง และงดงามมาฝากเพื่อน ๆ ทุกคนครับ

1. ใช้ดินสำหรับปลูกแคคตัสในการปลูก

ดินที่เหมาะสมในการปลูกปะการัง สายรุ้งคือดินสำหรับปลูกแคคตัวทั่วไปเลย เนื่องจากแม้จะชื่อว่าปะการัง แต่ต้นปะการัง สายรุ้งเป็นแคคตัสชนิทหนึ่ง ซึ่งต้องเติบโตในดินที่เหมาะสม เพื่อให้น้องสามารถเติบโตได้

• อย่ารดน้ำมากเกินไป

ต้นปะการังสายรุ้งด่าง ไม่ต้องการปริมาณน้ำที่มากเลย ควรรดน้ำเพียงอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ในปริมาณที่น้อยนิดเท่านั้น ไม่เช่นนั้น หากเผลอรดน้ำมากจนเกินไปรากของน้องอาจจะได้รับความชื้นมากเกินไปจนเน่า และส่งผลให้ต้นปะการัง สายรุ้งตายได้

• แม้แคคตัสจะไม่ชอบแดดที่ร้อนเกินไป แต่อย่าลืมพาน้องไปรับแดดบ้างนะ

เช่นเดียวกับแคคตัสชนิทอื่น ในการดูแลต้นปะการัง สายรุ้งไม่ควรให้อยู่กลางแดดที่มีอุณภูมิสูงจนเกินไป แต่ทั้งนี้ ใช่ว่าจะโดนแดดไม่ได้เลย เพราะต้นปะการัง สายรุ้งนั้นก็จำเป็นที่จะต้องได้รับแสงแดดเช่นเดียวกัน ไม่งั้นจะส่งผลเสียต่อน้องนั่นเอง

ต้นปะการังสายรุ้ง ต้นไม้แห่งสุขภาพ

ต้นปะการัง สายรุ้งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเพราะความสวย ความงามของมัน แต่ยังเป็นเพราะต้นไม้นี้มีเป็นต้นไม้ที่เหมาะแก่ผู้มีปัญหาสุขภาพอย่างยิ่ง ด้วยความสามารถในการเปลี่ยนคาบอร์นไดออกไซ ให้กลายเป็นออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพดังชื่อภาษาอังกฤษว่า elephant bush (พุ่มงวงช้าง) จึงเหมาะแก้ผู้ที่มีปัญหาด้านทางเดินหายใจ หรือที่มีตั้งของบ้านอยู่ในบริเวณที่มีด้านปัญหามลภาวะ จากโรงงานอุสาหกรรมก็ดี การก่อสร้างก็ดี

อีกทั้งสีสันที่งดงามของต้นประการัง สายรุ้งทั้งจาก ต้นปะการังสายรุ้งเขียว หรือ ต้นปะการังสายรุ้งชมพู ก็ช่วยให้ผู้ที่มีปัญหาด้านการนอนหลับ หรือกำลังประสบปัญหาจากความเครียด สามารถผ่อนคลายลงได้เป็นอย่างดี เพื่อน ๆ รู้ไหมว่าห้องที่มีสีสันสดใส ส่งผลต่อสภาพจิตใจของผู้ที่อยู่ในห้องนะครับ ดังนั้นต้นปะการัง สายรุ้ง จึงเป็นเครื่องหมายแทนความใส่ใจในการดูแลสุขภาพ ที่จะมอบให้กับคนที่รักได้นั่นเองครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ ปะการังสายรุ้งมีทั้งความงาม และประโยชที่มากมายเลยใช่ไหมครับ สำหรับ
เพื่อน ๆ ที่สนใจจะทดลองปลูกน้อง ทางผู้เขียนก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จนะครับผม

วันนี้ขอแนะนำไม้ประดับต้นที่น่าสนใจ และเป็นที่นิยมในปัจจุบัน พลูปีกนกด่าง มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า พลูระเบิดด่าง เป็นอีกหนึ่งชนิดที่เป็นที่สนใจและกำลังเป็นที่จับตามองของคนที่ชื่นชอบแหละหลงใหลในการปลูกต้นไม้ เพราะพลูปีกนกเป็นพันธุ์ไม้ด่างที่มีราคาไม่แพงมากในบรรดาพรรณไม้ด่างต่าง ๆ แต่ความสวยงามของลำต้นและลวดลายความด่างดูแพงมีราคา การดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยาก เหมาะสำหรับคนที่กำลังเริ่มสนใจในการปลูกต้นไม้หรือกำลังมองหาพันธุ์ไม้ด่างราคาไม่แพงสำหรับประดับตกแต่งภายในบ้าน

ลักษณะของพลูปีกนกด่างที่ทำให้มีราคาแพง

พลูปีกนกด่าง เป็นไม้เลื้อย ที่มีลำต้นทรงกระบอกขนาดเล็ก มีรากตามข้อปล้อง มีใบทรงรี สีเขียวอมเหลือง ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ออกดอกเป็นช่อที่ปลายยอด นิยมใช้เป็นไม้กระถาง หรือต้นไม้ที่ปลูกภายในอาคารสำนักงานหรือตามอาคารที่พักอาศัย หอพัก  เพราะต้องการเพียงแค่แสงรำไร และเป็นพื้นที่อากาศปลอดโปร่ง ถ่ายเทได้ นอกจากนั้นยังเหมาะที่ใช้ปลูกเป็นสวนแนวตั้งก็สวยงาม แถมยังมีประโยชน์ เนื่องจาก พลูปีกนกด่างได้ชื่อว่าเป็นต้นไม้ฟอกอากาศ จึงเหมาะสำหรับมอบเป็นของขวัญในเทศกาลต่างๆ ให้แก่ญาติสนิท มิตรสหาย ซึ่งจะก่อให้เกิดความสุขใจให้แก่ผู้รับ

วิธีปลูกพลูปีกนกด่าง       

พลูปีกนกด่าง วิธีดูแล ง่ายนิดเดียว ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนในการปลูก และดูแลรักษาพลูปลีกนกด่างมีดังนี้

1.เตรียมดินภายใส่เข้าไปในกระถางที่มีขนาดพอดีต่อการปลูก

2.นำกิ่งของพลูปีกนกมาปักเข้าไปในกระถางได้ทำการเตรียมไว้

3.นำไปไว้ในที่ร่มที่ไม่โดนแดดมาก ระหว่างนี้รดน้ำในปริมาณที่น้อย จนสังเกตเห็นว่ามีรากงอกขึ้นมา

4.ให้น้ำในปริมาณที่มากขึ้น ทุก 1-2 วัน ระวังอย่าให้ชื้นจนเกินไป

* ข้อความระวังการรดน้ำที่มากเกินไปสามารถส่งผลให้รากเน่าได้ จึงต้องคำนึงอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม

การจำแนกมูลค่าของ พลูปีกนกด่าง

พลูปีกนกด่าง มีมูลค่า และชื่อเรียกย่อยแบ่งตามลักษณะของสีใบ เช่น พลูปีกนกด่างเหลือง พลูปีกนกด่างขาว พลูปีกนกป่าด่าง เป็นต้น พลูปีกนกด่างขาว ใบมีลักษณะเป็นด่างสีขาวซึ่ง พลูปีกนกด่างขาวราคา  นั้นเริ่มตั้งแต่หลักร้อยปลายๆสูงขึ้นไปจนถึงราคาหลักหลายพัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของลายด่างว่ามีหน้าตา และความชัดเจนมากน้อยขนาดไหน ในส่วนของ พลูปีกนกด่างเหลือง เป็นพลูนกด่างที่คนนิยมเลี้ยงกันมาก เนื้อด้วยลักษณะ และสีสันที่มีความสวยงาม มากกว่าสายพันธุ์อื่น สายพันธุ์นี้จึงเป็นสายพันธุ์ที่มีราคา และมูลค่าที่สูงกว่าสายพันธุ์อื่นนั่นเอง

พลูปีกนกด่างขาว พลูปีกนกด่างเหลืองมีลวดลายบนใบที่สวยงามและแตกต่างกัน  ทำให้ราคามีความแตกต่างกันในระดับหนึ่ง ใครที่อยากได้พรรณไม้ด่างสวย ๆ สำหรับไว้ประดับตกแต่งห้องหรืออยากได้ไว้ประดับประดาเพื่อนเสริมบารมี พลาดไม่ได้เลยที่จะต้องเก็บพลูปีกนกด่างไว้เป็นตัวเลือกให้ชื่นชมกัน เพราะความสวยงามคู่ควรเหมาะแก่การเก็บสะสมเป็นไอเทมสำหรับคนที่หลงรักในไม้ด่างไม้ประดับอย่างแน่นอน

สำหรับชั่วโมงนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก มอนสเตอร่าด่างมิ้น ที่กำลังเป็นที่โด่งดังและเป็นที่นิยมในวงการต้นไม้เพราะมีราคาสูงถึงหลักล้าน โดยต้องยอมรับว่าในช่วงนี้ใบไม้ตระกูล มอนสเตอร่า เป็นไม้ประดับยอดฮิตที่มีราคาสูง โดยเฉพาะมอนสเตอร่าใบด่างที่กำลังเป็นที่สนใจและสะเทือนตลาดต้นไม้ในตอนนี้เป็นอย่างมาก เพราะความสวยงามโดดเด่นและลักษณะพิเศษจำเพาะ จนได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งใบไม้ ยิ่งตอนนี้ที่มีเหล่าดาราและเซเลปหลายท่านที่ชื่นชอบการปลูกต้นไม้หันมาสนใจเลี้ยงมอนสเตอร่า จนเป็นกระแสทำให้จำนวนความต้องการในตอนนี้ขาดตลาดและส่งผลให้มีราคาสูงมาก จนตอนนี้ได้เป็นแรร์ไอเทมของคนรักต้นไม้กันไปแล้ว

มาทำความรู้จักมอนสเตอร่าใบด่างมิ้น

มอนสเตอร่ามิ้น หรือ Monstera Borsigiana Mint Variegated เป็นสายพันธุ์ Borsigiana ในตระกูลมอนสเตอร่ากว่า 50 สายพันธุ์ เป็นมอนสเตอร่าเลื้อยขึ้นที่สูง ถ้ามีที่ยึดเกาะหรือไม้พยุงจะทำให้ก้านส่งใบให้ดูสูงสวยงาม ยิ่งโตขึ้นใบก็จะขยายและฉีกออกมากขึ้น ที่มีลักษณะใบสวยเป็นเงามันวาว ใบมีขนาดใหญ่กว่าฝ่ามือ เป็นแฉกฉลุขอบใบหยักสวยงาม ความโดดเด่นของ มอนสเตอร่ามิ้น คือ ความด่างบนใบที่มีลวดลายสวยงามและมีสีออกสีเขียวมิ้น ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนน้อยและหายากมาก 

ประเทศไทยเหมาะกับการปลูกมอนสเตอร่าหรือไม่

มอนสเตอร่าเป็นพืชที่มีต้นกำเนิดมาจากพื้นที่เขตร้อนชื้นตามป่าดิบเขาและหมู่เกาะของทวีปอเมริกา ทำให้สามารถปลูกมอนสเตอร่าได้อย่างสบาย ๆ และเจริญเติบโตได้ดีในเมืองไทย เพราะประเทศไทยมีอากาศร้อนชื้นเหมาะสำหรับปลูกมอนสเตอร่าเป็นอย่างมาก

คำแนะนำและวิธีการดูแล มอนสเตอร่าด่างมิ้น

1.สามารถปลูกลงดินกลางแจ้งและลงกระถางสำหรับเป็นไม้ประดับตกแต่งภายในภายในบ้านได้เลย มอนเตอร่ามิ้นชอบอาการชื้น สามารถปลูกในห้องแอร์ได้แต่ต้องเลือกที่มีแสงแดดร่ำไรเพราะจะทำให้ใบด่างสวยเป็นธรรมชาติ ( ต้องระวังอย่าให้โดนแสงแดดจัดอาจจะทำให้ใบไหม้ได้)  

2.ควรเลือกปลูกหรือตั้งไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวกจะช่วยในการเจริญเติบโตได้ดี รดน้ำอย่างสม่ำเสมอ (ระวังอย่าให้ชุ่มจนเกินไปอาจจะทำให้ชื้นและเป็นเชื้อราได้)

3.ถ้าจะลงกระถางแนะนำให้ปลูกลงกระถางเซรามิค กระถางดินเผาหรือกระถางที่มีรูสำหรับระบายจะดีมาก ใช้ขุยมะพร้าวผสมกับดินร่วนซุยหรือดินทรายเพราะจะช่วยไม่ให้เกิดความชื้น

4.หมั่นดูแลใบอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้ฝุ่นและแมลงขนาดเล็กเกาะตามใบ ควรใช้ผ้าชุ่มน้ำเช็ดที่บริเวณใบจะช่วยให้ในมีความมันเงาและสวยงาม

วิธีดูแลมอนสเตร่ามิ้น สามารถทำได้ง่าย ๆ ใครที่ไม่เคยเลี้ยงมอนสเตร่าไม่ต้องกังวลเลย เพราะ มอนสเตอร่าด่าง ขยายพันธุ์ ได้ง่าย โตเร็ว ถ้าดูแลอย่างถูกวิธีก็จะทำให้แข็งแรงแล้วก็มีอายุยืนอีกด้วย

ทำไมมอนสเตร่าถึงมีราคาแพง?

มอนสเตอร่าเป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถเพาะได้หลายวิธี การขยายพันธุ์ก็ค่อนข้างง่าย ทั่วไปมอนสเตอร่า ราคา หลักร้อยถึงหลักหมื่นตามขนาดและความสวยงาม แต่ในกรณีที่เป็นมอนสเตอร่ามิ้นหรือมอนเตอร่าด่างจะมีจำนวนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะมาจากการนำเมล็ดเนื้อเยื่อม      าผสมพันธุ์และดูแลอย่างใกล้ชิดให้มีลักษณะด่างสวยงามทั้งต้น นั่นก็คือการตัดแต่งพันธุ์ขึ้นมาใหม่ จึงส่งผลให้พันุ์ไม้ด่างต่าง ๆ มีราคาแพงกว่าพันธุ์ไม้ทั่วไป โดยเฉพาะมอนสเตร่ามิ้นที่เป็นพันธุ์ไม้ธรรมชาติ เลยทำให้ราคาเริ่มต้นที่หลักหมื่นจนถึงหลักล้าน แถมยังเป็นต้นไม้การฟอกอากาศได้ดีอีกด้วย จึงเป็นที่ต้องการและนิยมมากในปัจจุบัน

ในช่วงนี้คงอดไม่ได้ที่จะพูดถึงไม้ด่างที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ ทุกคนคงนึกถึงได้หลายชนิด หลายสายพันธุ์ และจะพลาดพันธุ์นี้ไปไม่ได้เลย นั่นคือ เงินไหลมาด่างเหลือง บางคนอาจจะมองว่าเป็นต้นไม้ธรรมดาต้นนึง แต่เขาจะรู้ไหมว่า ต้นไม้ชนิดนี้กำลังเป็นที่สนใจกันในหมู่นักสะสมไม้ด่างกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งความนิยมที่เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ราคาของต้นไม้ชนิดนี้สูงขึ้นตามไปด้วย สายกรีน สายเขียว ไม่ควรพลาดแล้วนะงานนี้

เงินไหลมาด่างเหลือง ดูยังไง?

ต้นเงินไหลมาด่างเหลืองจัดอยู่ในตระกูล Syngonium ซึ่งในตระกูลนี้มีหลากหลายสายพันธุ์มาก   ชื่อของต้นเงินไหลมาด่างเหลือง ภาษาอังกฤษ คือ Syngonium podophyllum auro Variegateed หรือ Syngonium Aurea variegated sinv Syngonium aurea มีชื่อเรียกกันมากมายแต่ล้วนที่สุดแล้วก็คือต้นเงินไหลมาด่างเหลืองนั่นเอง ไม้ด่างชนิดนี้จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว จะเป็นเถาเลื้อยเกาะตามต้นไม้หรือทำหลักให้ก็จะยึดหลักของมันเอง แตกกอเป็นข้อๆ แต่ละข้อจะห่างกันประมาณ 3 นิ้ว แต่ละเงินไหลมาถิ่นกำเนิดอาจจะมาจากคนละที่กัน ถ้าเป็นเงินไหลมาชนิดแรก ๆ ที่นิยมเอามาปลูกประดับก็จะเป็น เงินไหลมาธรรมดา ใบสีเขียว ๆ มีแฉกเยอะ ๆ เรียกว่า ซิงโกเนียม โพโดฟิลลัม (Syngonium podophyllum Schott) มีถิ่นกำเนิดที่อเมริกากลางและทวีปอเมริกาใต้ ซึ่งถ้าเป็นต้นเงินไหลมาธรรมดาจะมีต้น ก้าน และใบ เป็นสีเขียว แต่ถ้าเป็นต้นด่าง ต้นก้าน และใบจะด่างไปด้วย ทำให้ดูเป็นเอกลักษณ์สวยงาม จึงทำให้มีราคาแพงขึ้นไป ตามความสวยของต้นเงินไหลมานั้นๆด้วย

ข้อแนะนำในการปลูกเงินไหลมาด่างเหลือง

            1. เงินไหลมาด่างเหลืองเป็นพืชที่ปลูกง่าย สามารถปลูกได้กับพื้นดินทุกสภาพผิว การดูแลรักษาไม่ยุ่งยากเหมือนกับพันธุ์ไม้ด่างอื่น ๆ แต่เพื่อความสวยงามเราก็ควรบำรุงด้วยปุ๋ยหรือออสโมโค้ดก็ได้

            2. เงินไหลมาด่างเหลืองชอบอยู่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงรำไร เพราะถ้าโดดแดดจัด ๆ จะทำให้เป็นเงินไหลมาด่างเหลือง ใบไหม้

            3. ใบเงินไหลมาด่างเหลืองจะมีพื้นผิวที่บอบบางมาก โดยเฉพาะบริเวณที่มีสีด่าง เราจึงต้องดูแลเป็นพิเศษระวังอย่างให้โดนแสงแดงมากขนเกินไป หรือหมั่นทำความสะอาดโดยการนำผ้าชุบน้ำมาเช็ดบริเวณใบ ก็จะทำให้ใบมีสีสนเงางามสวยงาม

ทำไมไม้ประดับเงินไหลมาด่างเหลืองถึงมีราคาแพงกว่าเงินไหลมาด่างทั่วไป

สำหรับใครที่สงสัยว่า เงินไหลมาด่างเหลือง ทำไมแพง ต้องขอบอกก่อนว่าเงินไหลมาด่างจะมี 2 สายพันธุ์ด้วยกัน คือ เงินไหลมาด่างเหลืองและเงินไหลมาด่างขาว เงินไหลมาขาวเป็นพันธุ์ไม้ที่มีการขยายพันธุ์ในประเทศไทยมากกว่า 10 ปี ทำให้เงินไหลมาด่างขาวมีจำนวนมากให้ประเทศไทย แต่เงินไหลมาเหลืองเพิ่งจะมีการพัฒนาและนำเข้ามาในประเทศได้เพียง 2 ปีเท่านั้น การขยายพันธุ์และการพัฒนาตัดแต่งสายพันธุ์ยังมีจำนวนน้อย บวกกับ 1 ปีที่ผ่านมานี้กระแสในการปลูกต้นไม้ด่างในประเทศมีกระแสเป็นอย่างมาก ทำให้จำนวนต้นเงินไหลมาด่างเหลืองขาดตลาดและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ